ตรัง - ตำรวจภูธรสิเกา จังหวัดตรัง ทำลายอาวุธปืนและท่อรถจักรยานยนต์ที่ดัดแปลงสภาพ ในขณะผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง เตือนวัยรุ่นอย่าแต่งรถและแข่งขันรถในทางสาธารณะและตามแหล่งท่องเที่ยว ส่วนผู้ปกครองหากเจ้าหน้าที่ได้ตักเตือนแล้วบุตรหลานกระทำผิดซ้ำอีก จะมีความผิดตามกฎหมาย
ที่สถานีตำรวจภูธรสิเกา อ.สิเกา จ.ตรัง พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมด้วย พ.ต.อ.ยศวรรธน์ กระจ่างวงศ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสิเกา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรสิเกา ร่วมกันทำลายอาวุธปืนของกลางที่ศาลได้มีคำพิพากษาให้ริบเป็นของกลางและคดีถึงที่สุดแล้ว ให้เป็นไปตามแนวทาง ขั้นตอน และวิธีการทำลายอาวุธปืนของกลาง ตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งตามคำสั่งดังกล่าวได้กำหนดให้อาวุธปืนของกลางที่อัตลักษณ์ (ปืนมีทะเบียน) เมื่อศาลมีคำพิพากษาให้ริบและเมื่อคดีถึงที่สุดแล้ว หรือคดีนั้นขาดอายุความแล้ว ให้ส่งอาวุธปืนดังกล่าวไปยังกองสรรพาวุธ และกรณีอาวุธปืนไม่มีอัตลักษณ์ (ปืนไม่มีทะเบียน/ปืนประดิษฐ์เอง) เมื่อศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ริบและเมื่อคดีถึงที่สุดแล้ว หรือขาดอายุความแล้ว ให้เร่งดำเนินการทำลายทุกปีตามระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการเก็บรักษาและการจำหน่ายของกลาง พ.ศ.2565 ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง จึงได้อนุมัติให้ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสิเกา แต่งตั้งคณะกรรมการทำลายอาวุธปืนของสถานีตำรวจสิเกา ตามคำสั่งสถานีตำรวจภูธรสิเกาของกลางที่จะดำเนินการทำลายมีหลายชนิดและหลายขนาด เช่น อาวุธปืนบรรจุปาก ปืนอัดลมประกอบเอง หรือไทยประดิษฐ์ ปืนลูกซองประกอบเอง เป็นต้น จำนวน 62 คดี รวมอาวุธปืนทั้งสิ้น จำนวน 63 กระบอก และท่อไอเสีย จำนวน 153 อัน โดยวิธีการทำลายอาวุธปืนของกลาง จะใช้เครื่องมือสำหรับตัดเหล็กในการทำลาย และปฏิบัติตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้อาวุธปืนของกลางทั้งหมดสิ้นสภาพที่จะนำมาใช้งานได้ใหม่ ดังนี้ ตัดส่วนที่ 1 ตำแหน่งกลางลำกล้อง เพื่อให้สิ้นสภาพ ตัดส่วนที่ 2 ตำแหน่งชุดลั่นไก่ เพื่อให้สิ้นสภาพ ตัดส่วนที่ 3 ตำแหน่งกลางพานท้าย เพื่อให้สิ้นสภาพ นำไปเผาทำลาย เศษซากที่ได้จากการเผาทำลายให้นำไปฝั่งกลบ ในส่วนวิธีการทำลายท่อไอเสียรถแต่ง ทำลายโดยใช้รถบดทำให้เสียสภาพ ทั้งนี้การทำลายอาวุธปืนของกลาง เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้พี่น้องประชาชน ไม่ให้มีการนำอาวุธปืนของกลางซึ่งคดีถึงที่สุดแล้วออกไปใช้ในทางมิชอบ อย่างไรก็ตามการทำลายอาวุธปืนเป็นเพียงหนึ่งในมาตรการปราบปรามอาวุธปืนผิดกฎหมายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ได้สั่งการให้เพิ่มความเข้มดำเนินการอย่างต่อเนื่องทุกมิติ ทั้งการระดมกวาดล้าง จับกุมแหล่งผลิต จำหน่าย โดยเฉพาะการลักลอบจำหน่ายออนไลน์ เมื่อจับกุมได้ให้ขยายผลดำเนินการกับผู้ที่อยู่เบื้องหลังทุกราย รวมทั้งการระดมกวาดล้างการกระทำความผิดเกี่ยวกับการแข่งรถในทาง เมื่อจับกุมได้แจ้งให้ผู้กระทำความผิดดำเนินการแก้ไขท่อไอเสียให้อยู่ในสภาพเดิม และดำเนินการยึดท่อไอเสียที่ผิดกฎหมายเพื่อทำลายพร้อมเปรียบเทียบปรับตามกฎหมาย พร้อมกันนี้ตำรวจยังได้ปรับพฤติกรรมวัยรุ่นให้อยู่ในกรอบของกฎหมาย ไม่สร้างความเดือนร้อนให้ประชาชน
พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง กล่าวว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนหาข่าวการแข่งรถในทางสาธารณะโดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ที่ดัดแปลงท่อเสียงดัง รบกวนชาวบ้านและนักท่องเที่ยว หากเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ที่แข่งรถในทางได้จะลงบันทึกในครั้งแรก หากมีครั้งต่อไปผู้ปกครองจะมีความผิดด้วย ส่วนรถนั้นทางศาลจะพิจารณาว่าจะริบรถหรือไม่ ดังนั้นผู้ปกครองไม่ควรส่งเสริมให้บุตรหลานแต่งรถที่มีท่อเสียงดังรบกวนชาวบ้านและนักท่องเที่ยว พร้อมกันนี้ยังเตือนไปถึงร้านจำหน่ายอุปกรณ์ตแต่งรถ ห้ามจำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถที่ผิดกฎหมาย ส่วนการสั่งซื้ออุปกรณ์แต่งรถและการสั่งซื้ออาวุธปืนทางอินเตอร์เน็ต ทางเจ้าหน้าที่กำลังติดตามเพจหรือเฟสบุ๊กของผู้ที่กระทำผิดอยู่ในขณะนี้
มนต์เจริญ ศรีมงคล จ.ตรัง