ชลบุรี - ทีมสืบสวนฯโรงพักพัทยา ระดมกำลังแกะรอย-ไล่ล่า โจรงัดตู้เซฟ

ทีมสืบสวนฯโรงพักพัทยา ระดมกำลังแกะรอย-ไล่ล่า โจรงัดตู้เซฟ กวาดเกลี้ยงทองรูปพรรณ หนัก 32 บาท เงินสดอีก 3 แสน รวมมูลค่าเฉียด 2 ล้านบาท สาวเมืองชลฯเช่าห้องพักไว้ เวลาแฟนหนุ่มชาวต่างชาติ บินมาพักผ่อนเมืองพัทยา หลังจากนั้นไม่ค่อยได้มาพัก แต่จะนำทรัพย์สินมีค่ามาเก็บใส่ตู้เซฟไว้เพราะมั่นใจระบบรักษาความปลอดภัยของอพาร์ทเม้นท์แน่นหนา  เหยื่อสาวชี้ปมสงสัยให้ตำรวจคลี่คลาย ทำไมไม่มีร่องรอยงัดประตูห้อง แต่ตู้เซฟกลับมีร่องรอยงัดแงะ พอไปสอบถามเจ้าของอพาร์ทเม้นท์และขอดูกล้องวงจรปิด กลับบอกว่ากล้องเสีย หน้าตาเฉย


คดีมหาโจรเมืองพัทยา บุกโจรกรรมทรัพย์สินมูลค่าเฉียด 2 ล้านบาทรายนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 10.10 น.วันที่ 18 ธันวาคม 2567 พ.ต.ต.อิทธิกร สายกระโทก สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองพัทยา รับแจ้งเหตุคนร้ายโจรกรรมทรัพย์สิน ภายในตู้เซฟนิรภัย เหตุเกิดที่อพาร์ทเม้นท์ภายในซอยกอไผ่ เลขที่ 567 หมู่ที่10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรายงาน พ.ต.อ.นาวิน ธีระวิทย์ ผกก.สภ.เมืองพัทยา รับทราบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทยา ไปตรวจสอบ

สถานที่เกิดเหตุเป็นอพาร์ทเม้นท์สองชั้น โดยมี น.ส.ศศิกานต์ ทุงจันทร์ อายุ 44 ปี ชาวจังหวัดชลบุรี ยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจ อยู่หน้าห้องพักเลขที่ 203 ชั้นที่สอง พร้อมพาไปดูจุดที่ซ่อนตู้เซฟนิรภัยไว้ ก่อนจะถูกคนร้ายโจรกรรมทรัพย์สินไป พบว่ามีร่องรอยงัดแงะที่กุญแจ บนตู้เซฟฯ ทรัพย์สินภายในมีทองคำรูปพรรณหลายแบบ ทั้งสร้อยคอ ,สร้อยข้อมือ,จี้รูปหัวใจ,ต่างหู,พระเลี่ยมทอง และทองคำแท่ง น้ำหนักทั้งหมดรวม 32 บาท คิดเป็นเงินประมาณ 1,400,000 บาท (หนึ่งล้านสี่แสนบาทถ้วน) และเงินสดอีกประมาณ 300,000 บาท ได้ถูกโจรกวาดไปเกลี้ยง

จากการตรวจสอบห้องที่เกิดเหตุ พบว่ามีประตูเข้าเพียงฝั่งเดียว ซึ่งไม่พบร่องรอยการงัดแงะ ส่วนหน้าต่างนั้นมีเหล็กดัดใส่แน่นหนา มีเพียงตู้เซฟฯเท่านั้นที่ถูกงัดแงะจนได้รับความเสียหาย ส่วนจุดอื่นไม่พบร่องรอยการรื้อค้นแต่อย่างใด

น.ส.ศศิกานต์ ผู้เสียหายให้ข้อมูลว่า ห้องที่เกิดเหตุนี้ ตนเองเช่าไว้พักช่วงที่แฟนชาวต่างชาติมาเที่ยว ในช่วงที่แฟนไม่อยู่ก็จะไว้เก็บทรัพย์สินเท่านั้น เพราะคิดว่าห้องนี้ค่อนข้างปลอดภัย มีรั้วรอบขอบชิด มีเหล็กดัดหน้าต่าง มีตู้เซฟนิรภัย รวมถึงกล้องวงจรปิด ครบเครื่องเรื่องระบบรักษาความปลอดภัย

เหยื่อโจรสาว เผยต่ออีกว่า ก่อนจะรู้ว่าทรัพย์สินถูกโจรกรรมไป  หลังจากมาเปิดประตูห้องเข้าไปตามปกติ แต่เกิดพบสิ่งผิดปกติ เพราะกล้องวงจรปิดที่ตนเองแอบติดตั้งไว้ได้สูญหายไป จึงเกิดสังหรณ์ใจ รีบเปิดตรวจสอบดูทรัพย์สินภายตู้เซฟฯ ก็ต้องตกใจ เมื่อเห็นร่องรอยถูกงัด และทรัพย์สินได้หายไปเกลี้ยงตู้

“หนูสงสัยเป็นอย่างมาก เพราะคนร้ายไม่ได้งัดประตูห้องเข้าไป ส่วนกุญห้องก็มีเพียงตนเอง และเจ้าของห้องเช่าเท่านั้นที่มี พอสอบถามขอเช็คกล้องวงจรปิด ก็ได้รับคำตอบว่าชำรุด ทำให้เกิดความคลางแคลงใจว่า คนร้ายเข้าไปในห้องได้อย่างไร้ร่องรอย ได้อย่างไร”น.ส.ศศิกานต์ กล่าว

ขณะเดียวกันผู้ที่พักอาศัยอยู่ห้องข้างเคียง ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกว่า ก่อนหน้านี้สังเกตเห็นผู้ชายรูปร่างสูง ยืนสูบบุหรี่อยู่ภายในห้อง แต่ไม่ได้สนใจเพราะคิดว่าเป็นแฟนของเจ้าของห้อง และได้ยินเสียงก๊อกๆแก๊กๆในช่วงกลางคืน และภายในห้อง 201 ซึ่งไม่มีคนพัก กลับพบว่ามีขวดน้ำก้นบุหรี่ถูกทิ้งไว้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บไปเป็นหลักฐาน เพื่อนำไปตรวจหารอยนิ้วมือแฝง

น.ส.เอ (นามสมมุติ) หนึ่งในจำนวนผู้ที่เห็นชายต้องสงสัย ยังให้ข้อมูลอีกว่า ผู้ชายที่ต้องสงสัยคนนั้น ยังเคยเดินตาม แต่ตนกลัวจึงวิ่งหนี ส่วนน.ส.บี (นามสมมุติ)อีกคนหนึ่ง บอกว่า เคยถูกหมุนลูกบิดประตู โชคดีที่ตนล็อคข้างในไว้ และที่เคยแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบแล้ว แต่ก็ไม่พบคนอื่นแต่อย่างใด 

ด้าน พ.ต.ต.อิทธิกร สายกระโทก สว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน หาเบาะแสจากกล้องวงจรปิดทั้งของอพาร์ตเมนท์ที่เกิดเหตุและข้างเคียง เพื่อติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุรายนี้มาดำเนินคดี 

อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมของผู้ต้องสงสัยตามที่พยานพบเห็น ทำทีเข้าไปอยู่ในห้องพักที่ไม่มีผู้เช่า ทำตัวกลมกลืนราวกับว่า เป็นเจ้าของห้องเสียเอง คาดว่าน่าจะใช้ช่วงเวลาที่ปลอดคน ย่องเข้าไปโจรกรรมทรัพย์สินภายในห้องพัก แต่จะเข้าด้วยวิธีใดนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจะเร่งล่าตัวมาสอบสวน เพื่อคลี่คลาย ปมโจรกรรมครั้งนี้ต่อไป

ธัญธนาฒย์  สิงห์โตนิเวศ 

อธิบดี  บุญชารี    รายงาน

Please Select Embedded Mode To Show The Comment System.*

ใหม่กว่า เก่ากว่า
ข่าวช่อง2 ออนไลน์ไทยแลนด์

Default Thumbnail

ข่าวช่อง2 ออนไลน์ไทยแลนด์