จังหวัดกระบี่จัดงานวันดินโลกเทิดพระเกียรติพ่อแห่งชาติกระตุ้นให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรดินและน้ำ
เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2567 เวลา 14.30 นาฬิกา นายอังกูร ศิลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เปิดกิจกรรมงานวันดินโลกจังหวัดกระบี่ เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ วันชาติไทย และวันพ่อแห่งชาติ ประจำปี 2567 ภายใต้หัวข้อใส่ใจมาตรฐานตรวจวัดจัดการดินดียั่งยืน ที่สถานีพัฒนาที่ดินจังหวัดกระบี่ หมู่ที่ 13 บ้านนาตีน ตำบลกระบี่น้อย อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ ซึ่งมีหมอดินและผู้นำเกษตรกรจากพื้นที่ 8 อำเภอเข้าร่วม ซึ่งมีการจัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติ มอบต้นกล้าตะเคียนทอง จำนวน 500 ต้น แจกน้ำหมักชีวภาพ 300 ขวด การให้ความรู้เรื่องการบริหารจัดการดิน และมอบประกาศเกียรติบัตรเด่นเด่นประจำปี 2567 แก่หมอดิน 8 สาขาได้แก่
หมอดินด้านอนุรักษ์ดินและน้ำ หมอดินด้านผู้สร้างคุณประโยชน์ต่อการพัฒนาที่ดิน หมอดินด้านปรับปรุงบำรุงดิน หมอดินด้านการสร้างผลงานเชิงประจักษ์ หมอดินด้านเกษตรแบบผสมผสาน หมอดินด้านการสร้างเครือข่าย หมอดินด้านการพัฒนาสู่เกษตรอินทรีย์ และหมอดินด้านการใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำในไร่นานอกเขตชลประทาน
การจัดกิจกรรมในวันดินโลกเพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร และเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงสืบสานรักษาต่อยอดพระราชปณิธานแห่งพระบรมราชชนกนาถ เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรดินและการพัฒนาที่ดินอย่างต่อเนื่อง
โดยนายอังกูร ศิลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า การจัดงานวันดินโลกจังหวัดกระบี่ เป็นการรณรงค์ส่งเสริมที่ดำเนินกันมาอย่างต่อเนื่องหลายปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดความตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรดิน เพื่อให้เกิดจิตสำนึกในการช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรดินอย่างยั่งยืน โดยองค์การสหประชาชาติได้ประกาศรับรองให้วันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระบรมราชสมภาพของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร เป็นวันดินโลก ด้วยซาบซึ้งในพระปรีชาสามารถและพระมหากรุณาธิคุณที่ได้ทรงศึกษาค้นคว้าวิธีการจัดการดิน และแก้ไขปัญหาทรัพยากรดิน จนเป็นที่ประจักษ์ไปทั่วโลกว่า ผลสำเร็จของการดำเนินงานตามแนวทางพระราชดำริ ก่อให้เกิดประโยชน์สุขต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน และความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นวิถีที่นำไปสู่ความปลอดภัยและความมั่นคงทางอาหาร ตลอดจนการขจัดความอดยากหิวโหยตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ
นายอังกูร กล่าวอีกว่า สำหรับหัวข้อใส่ใจมาตรฐานตรวจวัดจัดการดินดียั่งยืน หมายถึง การให้ความสำคัญในเรื่องของการดูแลรักษาดิน ต้องอาศัยกระบวนการสำรวจวิเคราะห์ที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้ทราบสถานะปัจจุบันของดินในด้านต่างๆ รวมทั้งต้องทำการติดตามประเมินแนวโน้ม ทิศทางการเปลี่ยนแปลงอย่างสม่ำเสมอ และนำข้อมูลมาใช้วางมาตรการจัดการดินที่เหมาะสมกับน้ำอย่างมีประสิทธิภาพและถูกหลักวิชาการ