อำเภอบางละมุง ขานรับ พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม นายอำเภอฯยืนยันเจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียนฯ มีความพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ ยินดีกับความรักของทุกคู่รักสมหวังอย่างเท่าเทียม พร้อมกับเผย กรมการปกครอง คัดเลือกอำเภอบางละมุง เป็นหนึ่งใน 24พื้นที่เป้าหมาย เพราะมีความหลากหลายกลุ่ม LGBTQ+ อาศัยในพื้นที่จำนวนมาก
นายพัชรพัชร์ ศรีธัญญนนท์ นายอำเภอบางละมุง เปิดเผยถึงความพร้อมในการจดทะเบียนสมรสเท่าเทียม หลังจากกรมการปกครอง เลือกให้เป็น 1 ใน 24 อำเภอพื้นที่เป้าหมาย เปิดให้บริการจดทะเบียนสมรสแก่คู่รัก LGBTQ+ ว่า ด้วยวันที่ 23 มกราคม 2568 พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม มีผลทางกฎหมาย 100 % และมีผลในสำนักทะเบียน 878 แห่งทั่วประเทศ ดำเนินการจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมคู่รัก LGBTQ+ สามารถเดินทางไปจดทะเบียน ณ ที่ว่าการอำเภอใดก็ได้ทั่วประเทศไทย
แต่ด้วยอำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เป็นอำเภอเป้าหมาย 1 ใน 24 อำเภอ ที่กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย มองว่าเป็นพื้นที่ที่มีประชากรจำนวนมาก มีความหลากหลายและมีกลุ่ม LGBTQ+ อาศัยในพื้นที่จำนวนมากเช่นกัน ทำให้อำเภอบางละมุง ถูกเลือกให้เป็น 1 ใน 24 อำเภอ เข้าไปที่สหประชาชาติ หรือ UN เพื่อรับธงพร้อมจัดพื้นที่แสดงสัญญาลักษณ์ ในเรื่องของความไม่มีพรมแดน จะสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกที่นับจากนี้ต่อไป
ในขณะนี้อำเภอบางละมุง มีความพร้อมจดทะเบียนสมรสเท่าเทียม ในวันที่ 23 มกราคม 2568 แล้ว 100 % ที่จะทำให้ความรักของทุกคู่รัก เกิดความเท่าเทียมกัน โดยมีการเตรียมความพร้อมด้านต่าง ๆ มีการประชาสัมพันธ์ การจดทะเบียนสมรส ถึงการเตรียมความพร้อม และรายละเอียดสำคัญ ของการจดทะเบียนสมรส สำหรับคู่รักทุกเพศ ทุกอัตลักษณ์ มีการชี้แจงสิทธิประโยชน์ตามกฎหมาย ที่มาพร้อมกับ การสมรสเท่าเทียม
พร้อมกันนี้ ยังมีการเปิดจองลงทะเบียนล่วงหน้าผ่าน facebook อำเภอบางละมุง เพื่อจะได้เตรียมความพร้อมด้านเอกสารให้กับคู่รัก เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก พร้อมทั้งศึกษาทำความเข้าใจ กฎหมายสมรสเท่าเทียม จัดเตรียมแบบพิมพ์ใบสำคัญสมรส รวมถึงซักซ้อมการปฏิบัติงานให้แก่เจ้าหน้าที่และจัดอบรมเพื่อสร้างความเข้าใจและพัฒนาทักษะการสื่อสารในการปฏิบัติงานจดทะเบียนสมรส ที่สำคัญคือความเข้าใจถึงความละเอียดอ่อนในการสื่อสารถึงความหลากหลายทางเพศ อีกทั้งอำเภอบางละมุงยังได้รับความร่วมมือ จากมูลนิธิเพื่อนพนักงานบริการ (SWING) ที่จะมาออกแบบจัดเตรียม สถานที่อีกด้วย
นายพัชรพัชร์ กล่าวต่ออีกว่า สำหรับคุณสมบัติคู่รัก LGBTQ+ ที่จะมาจดทะเบียนสมรมเท่าเทียมก็เหมือนคู่รักชาย-หญิงทั่วไป ส่วนเอกสารที่จะต้องเตรียมมา มีเพียงบัตรประชาชนเพียงใบเดียวเท่านั้น ส่วนคู่รัก LGBTQ+ต่างชาติกับต่างชาติ ไม่สามารถจดทะเบียนสมรส ในประเทศไทยได้ แต่หากเป็นคู่รัก LGBTQ+ ต่างชาติกับไทย สามารถจดทะเบียนได้ปกติ เพียงแต่จะต้องยืนยันก่อนว่ามีสถานะโสด และต้องใช้เวลาในการตรวจสอบเอกสารหลักฐาน นานกว่าคู่รัก LGBTQ+คนไทย
ทีมข่าว “ทูนิวส์” เมืองพัทยา
ธัญธนาฒย์ สิงห์โตนิเวศ
อธิบดี บุญชารี รายงาน
