จ่ายวันแรกตรุษจีนคึกคักชาวไทยเชื้อสายจีนทยอยซื้ออาหารเครื่องเซ่นไหว้สุกรไก่ต้มสุกแพงผักผลไม้ราคาคงที่พาณิชย์กระบี่คาดเงินสะพัดเพิ่มขึ้น 15 ล้านค่านิยมเก่าเริ่มหายไป
เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2568 เวลา 07.00 นาฬิกา ด้วยวันที่ 27 – 29 มกราคม 2568 เป็นเทศกาลตรุษจีน ประจำปี 2568 ซึ่งวันจ่ายและวันไหว้เทพเจ้าตรงกับ วันจันทร์และวันอังคารส่วนวันพุธ เป็นวันเที่ยวหรือการแจกอั่งเปา โดยก่อนวันตรุษจีน 1 วันถือว่าเป็นวันจ่ายของชาวไทยเชื้อสายจีน ที่จะต้องออกมาจับจ่ายใช้สอยในการซื้อหาอาหารสิ่งของและเครื่องเซ่นไหว้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในวันไหว้เทพเจ้าและไหว้บรรพบุรุษผู้ลวงลับไปแล้ว เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว ทั้งเป็นการรำลึกถึงพระคุณบรรพบุรุษอีกด้วย ซึ่งตรุษจีนปีนี้ตรงกับวันที่ 28 มกราคม 2568
ในส่วนของจังหวัดกระบี่โดยเฉพาะที่ตลาดสดมหาราชเทศบาลเมืองกระบี่ ตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ ซึ่งเป็นตลาดใหญ่สุดของจังหวัดได้มีชาวไทยเชื้อสายจีน ชาวไทยบาบาหรือบาหยา ต่างทยอยออกมาจับจ่ายใช้สอยในวันแรกเป็นไปอย่างคึกคักกว่าปีที่ผ่านมาถึง 2 เท่าตัว สาเหตุเนื่องจากส่วนใหญ่ชาวไทยเชื้อสายจีนที่ประกอบธุรกิจการท่องเที่ยว และเกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว และปลูกพืชเศรษฐกิจปาล์มน้ำมันและยางพารา มีรายได้เพิ่มมากขึ้นมาเลื่อยๆอย่างเห็นได้ชัด ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน 2567 มาจนถึงกลางเดือนมกราคม 2568 ยังสามารถทำรายได้มากยิ่งขึ้น ประกอบกับขณะนี้อยู่ในช่วงของฤดูกาลท่องเที่ยว จึงทำให้มีกำลังซื้ออาหารสิ่งของเซ่นไหว้และเครื่องประดับบ้านเรือนมากขึ้น
จากการสำรวจแผงขายอาหารที่จำเป็นและขาดไม่ได้ สำหรับในวันไหว้เทพเจ้าและไหว้บรรพบุรุษในวันตรุษจีน เมื่อเปรียบเทียบราคาปี 2567 กับปี 2568 อย่างเนื้อสุกรแดงล้วน เนื้อสามชั้น กระดูกซี่โครง กิโลกรัมละ 160 - 185 บาท ราคาขยับขึ้นมา 5 บาท ไก่เนื้อ ไก่ไข่ ไก่บ้าน กิโลกรัมละ 90 – 150 บาท ราคาคงที่ ส่วนไก่เนื้อ ไก่ไข่ ไก่บ้านต้มสุก ตัวละ 180 - 300 บาท ราคาสูงขึ้น 100 บาท หัวสุกรต้มสุกราคาเท่าเดิม 500 – 550 บาท ราคาสูงขึ้น 50 – 100 บาท เป็ดต้มสุกตัวละ 650 บาท ราคาเพิ่มขึ้น 100 บาท สำหรับเส้นก๋วยเตียว หมี่หุน หมี่เหลือง ราคายังคงเท่าเดิมกิโลกรัมละ 28 – 35 บาท ด้านของขนมเข๋งราคาเท่าเดิม 130 บาท ขนมเทียนราคามลูกละ 6 บาท ส่วนขนมอื่นๆทุกชนิดราคาคงที่ สำหรับพืชผักที่ชาวไทยเชื้อสายจีนมักนิยมซื้อไปปรุงอาหารเช่น ผักคะน้า ผักบุ้ง ผักกาดขาว ผักกวางตุ้ง หัวผักกาด ราคาคงที่กิโลกรัมละ 35 – 40 บาท
ส่วนผลไม้ที่นิยมนำไปเป็นเครื่องเซ็นไหว้ส่วนใหญ่ราคาเพิ่มขึ้นราคาคงที่ลูกละ 5 – 10 บาท องุ่นไทยและนอกราคาคงที่กิโลกรัมละ 100 – 130 บาท ส้มเขียวหวาน ส้มสายน้ำผึ่ง ส้มโชกุน กิโลกรัมละ 35 – 45 บาท ราคาลดลง 5 – 10 บาท แตงโม กิโลกรัมละ 25 บาท ราคาเพื่มขึ้น 5 บาท สับปะรดลูกเล็กและลูกใหญ่ลูกละ 20 - 45 บาท ราคาเพิ่มขึ้น 10 บาท ส่วนทางด้านของห้างสรรพสินค้าใหญ่ไม่ต้องพูดถึงชาวกระบี่เชื้อสายจีน แห่ไปซื้ออาหารและสิ่งของมากเช่นเดียวกัน โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดกระบี่ คาดการว่าในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ชาวจังหวัดกระบี่มีกำลังซื้อมากกว่าปีที่ผ่านมา ในการจับจ่ายใช้สอย 2 วันจะมีเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 53 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 15 ล้านบาท แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงของเทศกาลตรุษจีนในแต่ละปี ชาวไทยเชื้อสายจีนรุ่นใหม่เริ่มจับจ่ายใช้สอยอาหารสิ่งของและเครื่องเซ่นไหว้ที่จำเป็นทำกันในเฉพาะในครัวเรือน ไม่มีการนำไปแจกจ่ายให้กับญาติพี่น้องและเพื่อบ้านข้างเคียงเหมือนอย่างหลายๆปีที่ผ่านมาในอดีตกาล ซึ่งค่านิยมเหล่านี้เริ่มหายไปในช่วงเทศกาลตรุษจีนของแต่ละปี