ปทุมธานี - สาวร้อง กัน จอมพลัง ช่วยหลังสามีเก่าตามมาทำร้ายจุดไฟเผาเสื้อผ้า

ปทุมธานี สาวร้อง กัน จอมพลัง ช่วยหลังสามีเก่าตามมาทำร้ายจุดไฟเผาเสื้อผ้า

จากกรณีที่กลุ่มไลน์ ครอบครัวข่าว กัน จอมพลัง ได้ระบุข้อความว่า วันนี้(23 ม.ค.) เวลา 15.30 น. แม่มาขอให้ช่วยถูกอดีตสามีทำร้ายร่างกายตัวเองจุดไฟเผาบ้านทำลายข้าวของไม่พอจุดไฟเผาลูกของตนจนวิ่งร้องโหยหวน ( มีคลิป )เหตุการทั้งหมด

แม่เล่าว่าตอนทำร้ายลูกสาวของตนอดีตสามีทำท่าจะเอามีดฟันหลายครั้ง จนน้องต้องยกมือไหว้ขอชีวิต ซึ่งตอนนี้น้องสภาพจิตใจเด็กย่ำแย่ หลังหย่าสามียังตามคุกคามไม่เลิก ขู่จะทำร้ายซ้ำหากแจ้งความออกมาจะฆ่าให้ตายผู้ชายติดคุกมาหลายรอบไม่กลัวตำรวจ ผมรับปากช่วยครับ โดยระบุพิกัดไว้ที่ สภ.คูคต จ.ปทุมธานี  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาเวลา 15.30 น. ทีมงาน กัน จอมพลัง ได้พา  นางสาวปนัดดา มะลิกุล หรือพิมพ์ อายุ 32 ปี เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คูคต ซึ่งก่อนเข้าพบทางทีมงานกัน จอมพลังได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า ทางผู้หญิงคนดังกล่าวติดต่อไปที่เพจ กัน จอมพลังช่วยสู้ว่า คุณแม่ถูกคุกคามซึ่งการคุกคามมีมาโดยตลอดเลยจนไปสู่ความร้ายแรงมากขึ้น ก็คือตอนนี้บุตรสาวอายุ 15 ปี ซึ่งอยู่ในสถานที่เดียวกัน แล้วน้องก็ถูกไฟไหม้และได้รับผลกระทบเป็นแผลตามร่างกาย ส่วนลายละเอียดจะได้ให้คุณแม่ให้รายละเอียดต่อไป 

ทางด้าน นางสาวปนัดดา มะลิกุล หรือพิมพ์ อายุ 32 ปี กล่าวว่า  ก็วันนั้นมีการทะเลาะกันมีปากเสียงกัน เขาก็เปิดประเด็นว่า เขาชวนเราหย่า อะไรกันแบบนี้คุยกันเหมือนตกลงกันได้ เค้าก็ขับรถผ่านไปผ่านมาประมาณครึ่งชั่วโมง แล้วเขาก็โทรมาข่มขู่ว่าจะกลับมาทำลายสิ่งของที่หาด้วยกันมาก็คือพวกของทำมาหากินก็เลยบุกเข้ามาปีนบ้านเข้ามาทำร้ายร่างกายซึ่งลูกเห็นแล้วลูกทนไม่ได้ก็เลยเข้าไปห้ามเพราะลูกเข้าไปห้ามเสร็จ พอเข้าไปห้ามก็เป็นแบบในคลิปวิดีโอเลยเออเข้ามาทำร้ายร่างกายแล้วก็มีการเผาทรัพย์สินในบ้านซึ่งตอนนั้นมีหนู มีลูกสาวที่อยู่ในคลิป และน้องชายที่เป็นออทิสติกอีกคนนึงก็ช่วยพยามกันดับไฟแล้วก็โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ 

ตอนแรกที่เหมือนตกลงกันได้แล้วเค้าโทรมาข่มขู่ก็เหมือนว่าเขาไม่ยอมจบเหมือนเขาแค่พูดหลอกให้เราไม่เอาเรื่องอะไรแล้วก็วนกลับมาทำร้ายใหม่ ตอนนี้อยู่กับสามีมาทั้งหมดเก้าปี ส่วนน้องที่อายุ 15 ปีเป็นลูกติดตนเองมา ซึ่งเขามีศักดิ์เป็นพ่อเลี้ยงโดยเราอยู่กินกับเขามาตั้งแต่ลูกอยู่อนุบาล 3 ซึ่งตนเองเสียใจมากเพราะว่าเราก็ช่วยกันดูแลมาตั้งแต่ลูกยังเด็กเด็กไม่รู้วันนั้นเขามีอาการเมาด้วยแล้วเหมือนฟิวขาดแล้วอยู่กินกันมาก็มีปัญหาเรื่องครอบครัวเป็นเรื่องปกติเรื่องเงินเรื่องอะไรแล้วก็มีการชักชวนกันไปหย่าหลายครั้งจนเกิดเหตุการณ์แบบนี้ 

ในส่วนของเรื่องการเผาผ้าตามในคลิปคือครั้งนี้เป็นครั้งที่สองโดยเมื่อตอนเก้าปีที่แล้วก็มีหนึ่งครั้งแต่หนูคิดว่ามันเล็กน้อยเหมือนเราโพสต์ขายเสื้อผ้าแล้วมีคนมาซื้อแล้วเค้าให้เราโทรหาเพื่อนแต่เราบอกว่าเอาไว้ก่อนนะขอสรุปยอดลูกค้าก่อนเพราะเราไม่เคยขันออนไลน์มาก่อน เราก็กลัวว่าเดี๋ยวลูกค้าหาว่าโอนเงินแล้วไม่ตอบแชทกลัวเราไม่มีเครดิตพอถึงบ้านเขาไม่พอใจเขาก็เผาเลยอันนั้นคือครั้งแรก แต่ครั้งที่สองก็คือในคลิปวิดีโอคือครั้งที่สองซึ่งการทำร้ายร่างกายนั้นก็ไม่ได้มีตลอดแต่จะมีเฉพาะเวลาที่เขาโมโหสุดขีด ซึ่งหนูก็ไม่ยอมมันก็มีกันบ้างแต่ว่าก็ไม่เหมือนกับครั้งนี้ แต่ครั้งที่สามก็เหมือนกลับว่าเป็นการหลอกล่อให้เราเอากุญแจบ้านไปให้มาขอกุญแจบ้าน ว่าจะเข้าไปเอาของในบ้านนะแต่รอบนี้จะไม่เป็นการเผาเสื้อผ้าในบ้านแต่จะหอบเสื้อผ้าเอาไปเผาที่อื่นซึ่งเราตามไปเจอว่าเอาไปเผาจริงๆแล้วเสื้อผ้าก็หายจริงๆ ซึ่งลูกค้าก็จะรับรู้ว่ามันเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นลูกค้าก็เป็นพยานได้เหมือนกันว่าของของ เค้าหายจริงๆ

ซึ่งเหตุการณ์ตามในคลิปที่ส่งคลิปวิดีโอ ให้กับทางด้านคุณจอมพลังโดยคลิปดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2567  วันนั้นก็คือวันนั้นหนูมีรถอยู่หนึ่งคันก็คือเป็นรถกระบะที่ขับชนนี่แหละแล้วจะไปซื้อรถอีกคันนึงวันนั้นก็ไปซื้อรถมาแล้วก็มาด้วยกันแล้วรถมาจอดหน้าบ้านเขาดื่มสุราซึ่งก็เอาง่ายง่ายคือเราก็กินเหล้าด้วยกัน แต่ว่าเค้ากินก่อนแล้วหนูไปทำกับข้าวทำกับข้าวออกมาเค้าขอเอารถไปขับหนูก็ได้ห้ามเขาเพราะว่าเค้าเมาแล้วเดี๋ยวไปเฉี่ยวไปชนอะไร เขาก็ยังดันทุลังที่จะเอาไปสุดท้ายเค้าก็เอารถไปชน รั้วบ้าน  ก็เลยเป็นจุดที่ทะเลาะกันแค่เรื่องรถชนเรื่องเล็กๆชนประตูรั้วบ้าน ด้วยความที่เราโมโหเราไปตบหน้าเขาเบาเบา แล้วก็บอกว่าทำไมทำแบบนี้บอกแล้วตามสไตล์ผมพอเค้าลงรถมาได้เค้าก็ตบหนูร่วงเลยค่ะ เข้ามาแล้วเพื่อนเค้าก็เข้ามาห้ามว่าอย่าทำผู้หญิงเค้ากำลังจะกระทืบซ้ำ แล้วเค้าก็บอกว่าเค้าลูกผู้ชายพอเค้าไม่ทำหรอกรับปากพวกพี่พี่แล้ว จากนั้นเค้าก็โทรกลับไปหาแม่เขาบอกว่าจะกลับไปอยู่กับแม่นะจะหย่ากับหนู เค้าถามหนูอยากหย่าไหมจะไปหย่าให้ หนูดันตอบตกลง ซึ่งเมื่อหนูตอบตกลงเค้าก็โมโหเหมือนเค้าจะยื้อให้เลิกทะเลาะแต่เราทนไม่ไหวแล้วเราไม่ชอบเหตุการณ์รุนแรงแบบนี้เพราะตอบตรงลงเสร็จปุ๊บเค้าก็เลยตกลงตัดสินใจว่าเราหย่ากันก็พูดกันดีดี แล้วเค้าก็บอกว่างั้นขอรถนะหนูก็บอกเขาว่างั้นก็ไปเค้าก็ขับรถออกไปได้ประมาณครึ่งชั่วโมงจากนั้นก็โทรกลับมาข่มขู่เดี๋ยวจะให้ไม่เหลืออะไรจะให้ไปเริ่มต้นใหม่ถ้าอยากหย่าก็เหมือนว่าอะไรที่เคยหามาด้วยกันก็ไม่เหลือประมาณนี้ก็เป็นไปตามในคลิปที่กลับมาเผา 

ซึ่งเหตุผล ที่เพิ่งมาร้องคุณกันจอมพลังก็คือ อย่างเมื่อวานก็มีการข่มขู่มีมาตลอดเรื่อยเรื่อยหลังจากที่จบกันไปแล้วตัดสินใจหย่าด้วยกันแล้วทางเราก็เหมือนว่าเรามีแฟนใหม่ปีนี้ก็เกิดอาการเหมือนหึงหวงไม่ยอมทั้งทั้งที่เค้าก็มีใหม่แล้วแล้วตามมาขู่เราตามมาพูดข่มขู่จะไม่ให้เรามีชีวิตอยู่ลูกต้องกำพร้าพ่อหรือแม่ใครซักคนนึงอยู่เรื่อยๆพวกหนูหนูอยู่กันมีแต่พวกผู้หญิงแล้วน้องก็เป็นออทิสติก หนูอยู่ไม่เคยนอนหลับได้สนิทซักคืนเลยหนูไม่รู้ว่าวันไหนเค้ามาทำเหมือนอย่างบ้านที่เค้าเคยอยู่เค้ารู้ทางเข้าทางออกหมดหนูกลัวไปหมดเลยค่ะคืออยู่ด้วยความหวาดระแวงเพราะเค้ารู้หมดว่าเราอยู่ที่ไหนเวลานี้ทำอะไรลูกเรียนที่ไหนเวลานี้ต้องไปไหนประมาณนี้ค่ะหนูรู้สึกว่าหนูไม่ไหวแล้วเค้ามายืนด่าทอหนูพอเรามี คนใหม่กล้ามาหาว่าเราคบชู้ ไม่รู้เค้ามาใส่ร้ายอะไรแบบนี้หนูไม่ไหวแล้วเอาหนูไปแขวะในเฟสมั่งหาว่าเรามีคนอื่นหนูโดนสังคมโดนเพื่อนถามแล้วหนูก็ไม่ชอบอธิบายอะไรแบบนี้ซึ่งหนูไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ในวันนี้ด้วยซ้ำหนูไม่อยากมายืนอยู่แบบนี้หนูแค่ต้องการให้เขาจบไปต่างคนต่างอยู่ต่างคนต่างทำมาหากินเหมือนเลิกกันไปลูกของเขาที่มีด้วยกันหนูก็เป็นคนเลี้ยงเองส่งเสียเองทุกอย่างไม่ได้ไปเรียกร้องหรือขออะไรเค้าเลย

และอย่างเค้าก็ท้าหนูตลอดและเขายังเคยติดคุกมาแล้วหลายครั้งเค้าก็เลยไม่กลัวเค้าเลยบอกว่าเค้าไม่กลัวหรอกตำรวจคุกเค้าเตรียมไว้หมดแล้วเค้าไม่กลัวเค้าท้าหลายต่อหลายรอบมากซึ่งเป็นสิ่งที่หนูไม่อยากจะทำเลยซึ่งที่เค้าติดคุกนั้นไม่เกี่ยวกับคดีทำร้ายร่างกายแต่เป็นเรื่องอื่น ตอนนี้สภาพจิตใจของลูกหนู ก็ต้องดูใจกันไปเพราะเขาไม่เคยหลับสนิทเหมือนกันเพราะว่าใครมาจอดรถหน้าบ้านตอนนี้เราก็ระแวงกันไปหมดแล้วเห็นรถคล้ายๆเข้ามาในหมู่บ้านก็ไม่ได้แล้วเพราะว่ากลัวเพราะเค้าทำอะไรไม่คาดคิดเลยแต่ละอย่าง ปล่อยวันที่ 13 เค้าใช้สเปย์ไบก้อนสเปรย์ฉีดยุงฉีดพร้อมกับไฟแช็กมันก็เลยไปลองออกมาใหญ่ใหญ่ตามตัวก็มีผมไม่มีตามคอเหมือนผิวมันเบิร์นเบิร์น ซึ่งการรักษาตัวนั้นเรื่องร่างกายไม่เท่าไหร่แต่สภาพติดใจมากกว่า ซึ่งขนาดพวกหนูยกมือไหว้ขอแล้วซึ่งมันจะเป็นหลังกล้องที่บันทึกก็ยังมีการเข้ามาต่อยเข้ามาทำร้ายอีกซึ่งบาดแผลของตนเองก็จะเป็นที่บริเวณมือข้างขวาซึ่งเกิดจากการที่พยายามจะเข้าไปดับไฟมันอาจจะดูเล็กน้อยตามร่างกายแต่ว่าจิตใจมันสำคัญแล้วชีวิตการเป็นอยู่เราไม่ปลอดภัยค่ะ แล้วเขาชอบครูเราว่าทางลำลูกกาเนี่ยกูเพื่อนเยอะกูพวกเยอะมันเลยทำให้เรา เหมือนแฟนใหม่มึงกูจะตามล่าประมาณนี้แต่ประเด็นตรงนั้นไม่ต้องพูดถึงดีกว่า ส่วนเรื่องหน้าที่การงานเค้าก็ทำกับครอบครัวส่วนเรื่องที่ว่าใหญ่โตคนทั้งลำลูกการู้จักอันนี้เราก็ไม่ทราบแต่เห็นเขาพูดแบบนั้นซึ่งแต่เราเป็นผู้หญิงเราก็กลัวเพราะว่าไม่มีใครในบ้านเลยมาดูแลปกป้องคุ้มครองเราได้ ในวันนี้ที่มาเราอยากให้ดำเนินคดีกับเขาเพราะว่ารู้สึกว่าหนูไม่อยากทำหนูสงสารลูกคนเล็กตอนแรกเพราะสงสารลูกว่าลูกจะไม่เหลือพ่อคิดว่าเค้าจะปรับปรุงตัวได้จะได้กลับไปทำหน้าที่ของแต่ละคนหนูก็ทำงานเลี้ยงลูกเค้าก็ไปมีชีวิตใหม่แค่ว่าไม่มีเราสองคนเป็นผัวเมียกันแต่เขากลับไม่เลิกไม่ลาข่มขู่ท้าทายหนูจนหนู แบบเค้าเห็นว่าเราไม่ทำเลยเค้าก็เลยเห็นว่าเราไม่กล้าทำอะไรเขาเขาจึงทำแบบนี้เหมือนเพราะว่าเราไม่กล้า 

เราเคยติดต่อไปทางพี่น้องเขาแต่เหมือนเค้าไม่อยากช่วยเหมือนเค้าไม่อยากรับรู้อะไร ซึ่งฝั่งบ้านเขาไม่มีใครเป็นตัวกลางให้เลยค่ะซึ่งตอนนี้เมื่อ 21 ตุลาเราก็หย่ากันไปแล้ว แต่เขาก็ไม่ยอมเลิกกับเราเด็ดขาดก็จะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่เค้ามีแฟนใหม่แล้วซึ่งช่วงไหนที่เค้าอยู่กันมันก็จะไม่ค่อยมาคุกคามเราแต่พอแฟนเขาไปทำงานหรือนึกบ้าบ้าอะไรก็ด่ามั่งโทรมั่ง ทำให้เราหวาดระแวงไปด้วย

ในส่วนของทีมงานกันจอมพลัง กล่าวเสริมว่า ซึ่งก็เหมือนที่น้องนักข่าวถามว่า เหตุเกิดนานแล้วทำไมพึ่งมาแจ้งความวันนี้ จริงๆแล้วสิ่งที่น่ากลัวสำหรับผู้หญิงไทยมากๆก็คือการมองว่าการถูกทำร้ายในครอบครัวเป็นเรื่องปกติเป็นนิสัยที่เกิดขึ้นในทุกๆวันจนเขารู้สึกว่าเดี๋ยวเค้าก็จะผ่านไปได้พรุ่งนี้เค้าตื่นมาเรื่องนี้ก็คือจบไปจนความคุกคามในครอบครัวมันทวีคูณความรุนแรงขึ้นเรื่อยเรื่อยเขาก็รู้สึกว่าเขา ไม่สามารถเผชิญกับความกลัวนั้นได้ตลอดไปเค้าจึงติดต่อเพจมาซึ่ง ทางคุณกานต์จอมพลังก็ได้บอกว่าเราต้องเอาตัวเด็กเป็นที่ตั้งครั้งนี้มันไม่ใช่ความรุนแรงในครอบครัวที่เป็นผู้ชายกับผู้หญิงแต่มันคือการที่คุกคามไปถึงเยาวชน ซึ่งจริงๆแล้วเขาไม่เกี่ยวกับปัญหาที่พ่อแม่กำลังเผชิญไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตามเค้าควรที่จะต้องถูกเซฟตรงนี้ด้วยซ้ำวันนี้ทางทีมพาผู้เสียหายมาที่สภ. คูคต อย่างแรกเลยก็เพื่อมาขอความเห็นใจจากทางพลตำรวจในการดำเนินคดีผู้กระทำความผิดเพราะว่าตามที่เขาได้แจ้งไว้ ซึ่งเขาได้เคยแจ้งความไว้ตำรวจได้นำตัวผู้กระทำความผิดมาขังไว้หนึ่งวันวันถัดไปก็ปล่อยไป ซึ่งการปล่อยออกไปมันอาจจะไม่ได้ช่วยให้ความร้ายแรงลดลงวันนี้เหมือนมาตอกย้ำอีกครั้งว่าวัตถุประสงค์ของผู้เสียหายคืออะไรแล้วเราต้องการที่จะไปต่อในทิศทางไหน ในส่วนวันนี้ที่มีทาง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดปทุมธานีมาด้วย ซึ่งเราก็ก็จะทำงานร่วมกันทั้งทางทีมงาน ทั้งพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และทางเจ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อที่จะให้ชีวิตความเป็นอยู่ของชีวิตเด็กคนหนึ่งและครอบครัวของผู้หญิงที่ตอนนี้เรียกว่าตัวคนคนเดียวได้อยู่ต่อไปและยิ่งไปกว่านี้เค้ามีน้องชายที่ เป็นออทิสติกแล้วถ้าเกิดผู้ชายคนนี้เข้ามาทำแบบนี้อีกแล้วอะไรจะเกิดขึ้นถ้าไฟลามไปบ้างข้างข้างอันนี้ก็จะไม่ใช่ปัญหาครอบครัวแล้วอันนี้ก็จะเป็นปัญหาสังคมเราจึงรู้สึกว่าวันนี้เรามาเพื่อที่จะให้มันจบที่ปัญหาครอบครัวแล้วทุกคนแยกย้ายกันไปมีชีวิตต่อจะดีที่สุด

ต่อมานายวรยุทธ ลิมป์กิตติเจริญ หรือหมู อายุ 32 ปี ซึ่งเป็นอดีตสามีของ นางสาวพิมพ์ ได้เดินทางมาที่สภ. คูคต โดยทางทีมงานของการจอมพลังได้โทรศัพท์ถึงกันจอมพลังเพื่อให้พูดคุยกัน ซึ่งนายหมูได้กล่าวว่าวันนั้นผมยอมรับว่าเอาไฟไปจุดเผาเด็กจริงแต่ผม ต้องการของของผมคืนเขาเป็นชู้กับเพื่อนผม ซึ่งในวันนั้นเด็กก็มาว่าผมแล้วเด็กคนนี้ผมก็เลี้ยงมาตั้งแต่อนุบาล ซึ่งผมก็พยายามผลักออกไปแล้ว ซึ่งผมก็ยอมรับว่าผมไม่มีสิทธิ์ที่จะไปทำร้ายเด็กแบบนั้น ซึ่งเรื่องนี้ผมได้มีการขอโทษเขาไปแล้วว่าผมไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งบ้านหลังนี้ผมก็อยู่กับเขาผมย้ายมาอยู่ด้วยกันและอยู่กันมาเป็น 10 ปี ซึ่งวันนั้นผมก็พยามผลักเขาออกแล้วทั้งแม่และลูกผมแค่ต้องการของของผมที่ผมหามาที่ผมลำบากมาเพื่อที่จะเอามาแล้วก็นับหนึ่งใหม่กันนับหนึ่งใหม่กันให้หมด ไม่ใช่ให้ผมไปรับคนเดียว ซึ่งเค้าก็เอาเงินตรงนี้ไปอยู่กับผู้ชายคนใหม่ ซึ่งความหมายของผมที่ว่าต้องเริ่มใหม่ไม่ใช่ว่าจะเผาบ้านทิ้งผม

Please Select Embedded Mode To Show The Comment System.*

ใหม่กว่า เก่ากว่า
ข่าวช่อง2 ออนไลน์ไทยแลนด์

Default Thumbnail

ข่าวช่อง2 ออนไลน์ไทยแลนด์