รมว.กระทรวงทรัพยากรฯ เปิดตัว "โครงการพัฒนาต้นแบบชุมชนคาร์บอนต่ำ ด้านจัดการขยะชุมชนและการเกษตร เพื่อสนับสนุนการลดก๊าซเรือนกระจกในระดับพื้นที่" เพิ่มโอกาสเข้าถึงแหล่งทุน 17.8 ล้านบาท เสริมพลังเครือข่าย ทสม. 20 พื้นที่ 4 ภูมิภาค ขับเคลื่อนประเทศสู่เศรษฐกิจและสังคมคาร์บอนต่ำ
"กินแค่พอดี-มีแค่พอใช้-ปรับนิสัยให้พอเพียง" แก้ปัญหาโลกเดือดและขยะ เริ่มจากตัวเรา!! และขยายผลไปสู่ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ซึ่งเครือข่าย ทสม. 290,000 คน คือ หัวใจสำคัญ ในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน สำหรับคนรุ่นต่อไป
วิกฤตโลกร้อน เป็นปัญหาระดับสากล ที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเราไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เช่น ฝนตกหนัก น้ำท่วม และพายุที่รุนแรงในหลายภูมิภาคทั่วโลก ซึ่งส่งผลกระทบในทุกมิติ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงต้องเร่งป้องกัน แก้ไข ลดผลกระทบ และสร้างความตระหนักในระดับประเทศ โดยเริ่มต้นจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากประสบการณ์ในอดีต พร้อมวางแผนลดปัญหาขยะ อาหารเหลือทิ้ง และใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ
ซึ่งจากการประชุม COP 29 ที่ผ่านมา ประเทศไทยได้ตั้งเป้าหมาย ไว้ดังนี้
1)การจัดทำเป้าหมายทางการเงินครั้งใหม่ ซึ่งประเทศพัฒนาแล้วจะต้องสนับสนุนประเทศกำลังพัฒนาอย่างน้อย 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี ภายในปี ค.ศ. 2035
2)การจัดทำเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจก ในปี ค.ศ. 2035 หรือ NDC 3.0 ต้องสอดคล้องกับเป้าหมาย 1.5 องศาเซลเซียส ของความตกลงปารีส
3)การเริ่มดำเนินการของกองทุนการสูญเสียและความเสียหายภายในปี ค.ศ. 2025 เพื่อช่วยประเทศที่เปราะบางรวมถึงประเทศไทย สามารถรับมือกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และ
4)ความชัดเจนของตัวชี้วัดด้านการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศระดับโลกที่เชื่อมโยงในระดับประเทศ
นำร่องใน 19 จังหวัดก่อนขยายผลสู่ระดับประเทศ ซึ่ง เครือข่าย ทสม. 290,000 คน ถือเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนงานครั้งนี้มากที่สุด และเป็นต้นแบบเครือข่ายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในระดับพื้นที่
ดังนั้น การได้รับเงินสนับสนุนจากกองทุนสิ่งแวดล้อมจำนวน 17.8 ล้านบาท ในโครงการนี้ จะเป็นส่วนเสริมพลังในการขับเคลื่อนกิจกรรมด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในพื้นที่ต้นแบบ 20 พื้นที่ 4 ภูมิภาค เพื่อขยายผลสู่พื้นที่อื่นๆ และพร้อมยกระดับการทำงานร่วมกับภาคส่วนต่างๆ ในอนาคต เพื่อร่วมขับเคลื่อนประเทศ มุ่งสู่เศรษฐกิจและสังคมคาร์บอนต่ำและยั่งยืน
ซึ่งกลุ่มเป้าหมายของโครงการนี้ เป็นพื้นที่ เครือข่าย ทสม. ระดับตำบล ที่มีศักยภาพและมีการดำเนินกิจกรรมการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกด้านการจัดการขยะชุมชน 16 พื้นที่ และด้านการเกษตร 4 พื้นที่ รวม 20 พื้นที่ ใน 19 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร ครอบคลุม 4 ภูมิภาค
“หลังจากสิ้นสุดโครงการนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ต้นแบบชุมชนคาร์บอนต่ำโดยเครือข่าย ทสม. 20 พื้นที่ จะเป็นผู้สื่อสารและส่งเสริมให้เกิดรูปแบบการดำเนินกิจกรรมการลดก๊าซเรือนกระจกของชุมชนและประชาชน ภายใต้การสนับสนุนจากสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด และสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษในพื้นที่อย่างใกล้ชิด นำไปสู่การขยายผลในพื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนการดำเนินงานให้บรรลุเป้าหมายการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทยได้”
ขอส่งกำลังใจให้พี่น้อง ทสม.ทุกคน ไม่ต้องกังวล และทำงานอย่างเต็มที่ เราจะเดินไปพร้อมกับทุกคน และจะสนับสนุนปรับปรุงสวัสดิการให้สำเร็จได้แน่นอน
ในอนาคต ประเทศไทยจะพัฒนาเป็นผู้นำด้านเศรษฐกิจสิ่งแวดล้อม เช่น คาร์บอนเครดิต ซึ่งจะกลายเป็นอุตสาหกรรมสำคัญ การขับเคลื่อนนี้จำเป็นต้องใช้ทั้งทรัพยากรและความมุ่งมั่นของทุกฝ่าย ความสำเร็จขึ้นอยู่กับความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และประชาชน รวมถึงการสนับสนุนงบประมาณและนโยบายที่เหมาะสมเราจะเดินไปพร้อมกัน อนาคตของโลก อยู่ในกำมือเราทุกคน
คณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ เครือข่าย ทสม. 19 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ ทสจ. 19 จังหวัด เจ้าหน้าที่ประสานความร่วมมือและพัฒนาเครือข่าย และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมกว่า 200 คน ณ ห้องประชุมอารีย์สัมพันธ์ ชั้น 3 อาคารกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม
ทีมข่าวจ.ประจวบฯ /กระทรวงทรัพยากรฯ
