รมช. เกษตร ลงพื้นที่จังหวัดจันทบุรี รับฟังปัญหาและอุปสรรคการส่งออกผลไม้จากภาคเอกชน และเกษตรกร พร้อมยืนยันอยู่เคียงข้างเกษตรกร เพื่อยกระดับคุณภาพทุเรียนไทยและลดโอกาสของปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
วันนี้(15 ก.พ.68) ที่ลานขนส่งสินค้า องค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตร พร้อมคณะ ประกอบด้วยร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า สมาชิกผู้แทนราษฎร จังหวัดพะเยา อธิบดีกรมวิชาการเกษตร อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรและคณะผู้บริหารจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่จังหวัดจันทบุรี พบปะพี่น้องเกษตรกรและผู้ประกอบการเกือบ 2,000 คน เพื่อรับฟังปัญหา อุปสรรคการผลิตและส่งออกทุเรียนของจังหวัดจันทบุรี โดยมีนายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ให้การต้อนรับและรายงานสรุปสถานการณ์ทุเรียนในฤดูกาลผลิตปี 2568
ทั้งนี้สืบเนื่องจากทางการจีนตรวจพบสาร Basic Yellow 2 (BY2) ในทุเรียนไทย ส่งผลให้มีการระงับนำเข้าชั่วคราว และสำนักงานศุลกากรแห่งประเทศจีน สั่งการให้ด่านศุลกากรจีนทุกแห่งปฏิเสธการนำเข้าทุเรียนจากไทย หากไม่มีผล lab สี Basic Yellow 2 แนบมากับสินค้าทุกล็อต ซึ่งมาตรการดังกล่าว เกิดขึ้นจากหน่วยงานกำกับดูแลตลาดของจีน ได้ตรวจสอบความปลอดภัยทางอาหารของทุเรียนไทยที่นำเข้ามาประเทศจีน พบปัญหาการใช้สารย้อมสี “Basic Yellow 2” มีลักษณะเป็นผงสีเหลืองใช้ในการย้อมผ้า กระดาษ หนัง และสีทาบ้าน ซึ่งองค์การอนามัยโลก (WHO) จัดให้สารนี้เป็นสารก่อมะเร็งกลุ่ม BY2 ดังนั้นทุเรียนที่จะส่งออกต้องผ่าน การตรวจสอบเข้มงวด โดยต้อง ไม่มีสี และไม่มีสารต้องห้าม โรงคัดบรรจุต้องปฏิบัติตามแนวทางที่กำหนด พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ใบรายงานผลการทดสอบ Basic Yellow 2 (Test Report) และค่ามาตรฐาน แคดเมียมในเนื้อทุเรียนต้องไม่เกิน 0.05 มก./กก. เพื่อให้สามารถออกใบรับรองสุขอนามัยพืช (PC) สำหรับแสดงที่ด่านนำเข้าของจีน
ซึ่งเกษตรกรและผู้ประการล้งในจังหวัดจันทบุรีต่างยืนยันว่า กระบวนการปลูกและการบรรจุเพื่อการส่งออกของจังหวัดจันทบุรี ไม่มีการใช้สาร BY2 แน่นอน ซึ่งอธิบดีกรมวิชาการเกษตร แจ้งว่า ขอให้เกษตรกรใช้ปุ๋ยและยาที่ได้รับการรับรองจากกรมวิชาการเกษตรเท่านั้นก็จะลดปัญหาสารปนเปื้อนได้แน่นอน ส่วนกระบวนการส่งออกไปจีน ก็ขอให้มีผล lab การตรวจ Basic Yellow 2 แนบไปกับสินค้าตามที่จีนแจ้งมา
ในปัจจุบันประเทศไทยมี Lab หรือห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรองจากจีนในประเทศไทยมีเพียง 8 แห่ง คือ 1. บริษัทห้องปฏิบัติการกลาง(Lab) (ประเทศไทย) จำกัด (Central Laboratory Thailand) 2. บริษัท เอ มาตร (A-Matter) ซึ่งทาง เซ็นทรัลแล็บที่ ฉะเชิงเทรา ยืนยันช่วงที่ผลผลิตออกมามาก
ห้องปฏิบัติการฯ จะสามารถรองรับการตรวจวิเคราะห์ผลผลิตทุเรียนได้ทันแน่นอน
ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี เปิดเผยว่า จันทบุรีเป็นแหล่งผลิตและส่งออกผลไม้ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ มีผลผลิตปีละไม่น้อยกว่า 900,000 ตัน และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 100,000 ล้านบาท โดยมีโรงคัดบรรจุและผู้ส่งออกกว่า 800 โรง
จังหวัดจันทบุรีจึงให้ความสำคัญกับมาตรการควบคุมคุณภาพผลไม้ เพื่อรักษามาตรฐานส่งออก โดยริเริ่ม “จันทบุรีโมเดล” ซึ่งเป็นแนวทางความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อ ควบคุมและยกระดับคุณภาพผลไม้ไทย ให้เป็นที่ยอมรับในตลาดโลก การตรวจสอบและควบคุมมาตรฐานการผลิตถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับคุณภาพทุเรียนไทย เพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
สุภาพร นิยมกิจ ทีมข่าวจีนทบุรี