จังหวัดอุตรดิตถ์ ร่วมกับคณะสงฆ์อำเภอตรอน และโรงพยาบาลตรอน เปิด “กุฏิชีวาภิบาลวัดชำทอง จังหวัดอุตรดิตถ์”เพื่อรักษาพระภิกษุสงฆ์ที่อาพาธ ติดเตียง
เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2568 ที่ วัดชำทอง ต.บ้านแก่ง อ.ตรอน จ.อุตรดิตถ์ นายศิริวัฒน์ บุปผาเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นประธานเปิด “กุฏิชีวาภิบาลวัดชำทอง จังหวัดอุตรดิตถ์”เพื่อรักษาพระภิกษุสงฆ์ที่อาพาธ ติดเตียง
โดยมี พระราชวชิรากร ดร. เจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์ พระศรีปริยัติวิมล รองเจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์ พระมหามงคลกตปุญโญ รองเจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์ นางสายสมร ทองกองทุน รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดอุตรดิตถ์ นายระวี เล็กอุทัย สส.อุตรดิตถ์ พระครูปลัดภูกิตต์ เจ้าอาวาสวัดชำทอง นายสมศักดิ์ มีอ่วม รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุตรดิตถ์(ก้านบริการสาธารณสุข) นางสาววรัญญา จันทร์อุดม ผู้ประสานงาน สปสช.เขตสุขภาพที่ 2 นางสาวพรทิพย์ คล้ายชม นายอำเภอตรอนพร้อมด้วยพระเถรานุเถระ เหล่ากาชาดจังหวัดอุตรดิตถ์ บุคลากรทางด้านสาธารณสุขอำเภอตรอน อสม.และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ในการเปิด “กุฎิชีวาภิบาลวัดชำทอง” ในครั้งนี้ จากข้อมูลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติประจำปี 2565 มีจำนวน วัดประเทศ 43,564 วัด มีพระภิกษุ - สามเณร จำนวน 288,965 รูป ทั้งหมดมากกว่าร้อยละ 50 เป็นผู้สูงอายุและมีแนวโน้มเป็นผู้สูงอายุมากขึ้น มีโรคเรื้อรัง และประมาณร้อยละ 0.3 เป็นพระสงฆ์อาพาธระยะท้าย ซึ่งพระสงฆ์มีวัตรปฏิบัติแตกต่างจากฆราวาส เนื่องจากต้องปฏิบัติตามพระธรรมวินัย และมักพบว่าเมื่อพระสงฆ์อาพาธติดเตียง หรืออาพาธระยะท้าย มีความประสงค์จะกลับวัด แต่สถานที่ ที่จะรองรับพระสงฆ์อาพาธเหล่านี้มีน้อย ขาดบุคลากรผู้ดูแลประจำวัด หรือหากญาติรับไปดูแลที่บ้าน ก็มักต้องลาสิกขาในที่สุด จึงได้มีการดำเนินการจัดตั้งกุฏิชีวาภิบาลตามนโยบายกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเป็นสถานที่ดูแลพระภิกษุสงฆ์อาพาธ ที่มีภาวะพึ่งพิง สูงอายุติดบ้านติดเตียง และอยู่ในระยะท้ายของชีวิต ให้ได้รับการดูแลแบบองค์รวมครอบคลุมทั้ง 4 มิติ คือ กาย จิตใจอารมณ์ สังคม และจิตวิญญาณ เอื้อให้พระสงฆ์ที่อาพาธยังสามารถดำรงตน ในพระธรรมวินัยได้ โดยวัดชำทอง ได้รับการสนับสนุนจากภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชนในพื้นที่ โดยการดำเนินการจัดตั้งกุฏิชีวาภิบาลวัดชำทองในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1. เพื่อส่งเสริม สนับสนุน ให้มีการจัดตั้ง “กุฏิชีวาภิบาล” ให้เป็นสถานที่ดูแลพระสงฆ์อาพาธระยะท้ายให้ได้รับการดูแลที่ครอบคลุมในทุกมิติ 2. เพื่อพัฒนาศักยภาพพระคิลานุปัฏฐากด้านความรู้ในการดูแลสุขภาพพระสงฆ์แบบประคับประคอง 3. เพื่อส่งเสริม สนับสนุน ให้พระคิลานุปัฏฐากมีส่วนร่วมในการดูแลสุขภาพพระสงฆ์ในวัด และสามารถให้คำแนะนำการดูแลสุขภาพของพระสงฆ์ภายในวัดและประชาชนในชุมชนได้ 4. เพื่อสร้างภาคีเครือข่ายในการดูแลรักษาสุขภาพพระสงฆ์แบบประคับประคอง จังหวัดอุตรดิตถ์ มีพระคิลานุปัฏฐากทั้งหมด 232 รูป มี CM 238 คน CG 1116 คน อำเภอตรอนมีพระคิลานุปัฎฐากทั้งหมด 15 รูป วัดชำทองมีพระคิลานุปัฎฐาก 4 รูป โดย 1 รูปผ่านการอบรมตามหลักสูตรการดูแลแบบประคับประคอง (Palliative care) ภาคทฤษฎีและปฏิบัติจากกรมอนามัย ซึ่งวัดชำทอง โดยพระครู พระภูกิตต์ วฑฺฒโน ท่านเจ้าอาวาสให้การดูแลพระภิกษุสงฆ์อาพาธและออกเยี่ยมผู้ป่วยในโรงพยาบาล ที่บ้านในผู้ป่วยระยะท้ายเพื่อการดูแลครบทั้ง 4 มิติแบบองค์รวม มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2562 และให้การดูแลพระสงฆ์อาพาธร่วมกับทีม CM 3 คน และอสม. ร่วมกับโรงพยาบาลตรอน โดยออกเยี่ยมในโรงพยาบาล และบ้านในผู้ป่วยระยะท้าย และปัจจุบันได้ร่วมดูแลพระสงฆ์อาพาธในเขตอำเภอตรอน และร่วมขับเคลื่อนนโยบายการดำเนินงานของกระทรวงสาธารณสุขประจำปีงบประมาณ 2568 ในประเด็น สถานชีวาภิบาลในชุมชนและองค์กรศาสนา โดยให้การดูแลพระภิกษุสงฆ์อาพาธในกุฏิชีวาภิบาล ที่มีภาวะพึ่งพิง รวมถึงสูงอายุติดบ้านติดเตียง และอยู่ในระยะท้าย ให้ได้รับการดูแลแบบองค์รวมครอบคลุมทั้ง 4 มิติ คือ กาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และจิตวิญญาณ เอื้อให้พระภิกษุสงฆ์อาพาธยังสามารถดำรงตนในพระธรรมวินัยได้ จึงจัดตั้งกุฏิชีวาภิบาลวัดชำทองครั้งนี้ และได้รับความร่วมมือภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนเป็นอย่างดียิ่ง ซึ่งกุฏิชีวาภิบาล ของวัดชำทอง ในปัจจุบันยังขาดแคลน เครื่องผลิตอ๊อกซิเยน จำนวน 4 เครื่อง ม่านกั้นบังสายตาเตียง 4 เตียง เครื่องดูดเสมหะ จำนวน 4 ชุด ผู้ที่มีจิตศรัทธาสามารถที่จะบริจาคปัจจัยสมทบทุนในการจัดซื้อ อุปกรณ์ดังกล่าวได้ที่ ธนาคารกรุงไทย หมายเลขบัญชี 527-028565-7 ชื่อบัญชี กุฎิชีวาภิบาลหรือสามารถโทรศัพท์สอบถามได้ที่ พระครูปลัดภูกิตต์ เจ้าอาวาสวัดชำทอง หมายเลขโทรศัพท์ 082-0212795 ได้ทุกวัน
ณัฐวัฒน์ ราชประสิทธิ์
ภาพ/ข่าวอุตรดิตถ์
0612928668
สนับสนุนข่าวโดย
