อุทยานหมู่เกาะพีพีช่วยเหลือเรือหางยาวขนส่งสิ่งของประสบเหตุกลางร่องน้ำลึกระหว่างเกาะไม้ไผ่กับเกาะพีพีดอนแกนเพลาใบพัดขาดวิ่งไม่ได้โชคดีทะเลไม่มีคลื่นลมแรง

  อุทยานหมู่เกาะพีพีช่วยเหลือเรือหางยาวขนส่งสิ่งของประสบเหตุกลางร่องน้ำลึกระหว่างเกาะไม้ไผ่กับเกาะพีพีดอนแกนเพลาใบพัดขาดวิ่งไม่ได้โชคดีทะเลไม่มีคลื่นลมแรง

















เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2568 เวลา 16.10 นาฬิกา นายแสงสุรีย์ ซองทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราหมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ ได้รับแจ้งเหตุจากเจ้าของบริษัทเดินเรือหัวโทงหรือเรือหางยาว ว่าเรือหัวโทงชื่อพีพีรีแล็ค 3 ซึ่งเป็นเรือขนส่งสิ่งของที่วิ่งเส้นทางระหว่าง หมู่ที่ 2 บ้านอ่าวนาง กับหมู่ที่ 7 บ้านเกาะพีพี ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ ได้เกิดประสบอุบัติเหตุบริเวณร่องน้ำลึกระหว่างเกาะไม้ไผ่กับเกาะพีพีดอน จึงขอความช่วยเหลือทางอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราหมู่เกาะพีพี ได้นำเรือตรวจการณ์เข้าไปชักลากเข้าฝั่งให้ด้วย

ภายหลังรับแจ้งจึงได้สั่งการให้นายชัยชาญ วิเชียรบุตร หัวหน้าหน่วยพิทักษ์อุทยานเกาะไม้ไผ่ พร้อมด้วยกำลังนำเรือตรวจการณ์เข้าตรวจสอบค้นหาตามจุดได้รับแจ้งเหตุ เพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน จนกระทั้งพบเรือหัวโทงชื่อพีพีรีแล็ค 3 ลอยลำเคว้งคว้างอยู่กลางร่องน้ำลึกถูกคลื่นซัดไปซัดมาไม่สามารถบังคับเรือได้ ทำให้เรือถูกคลื่นซัดไปตามกระแสน้ำออกห่างจากฝั่งหลายกิโลเมตร จึงเข้าให้การช่วยเหลือและพบคนขับเรือลำดังกล่าวทราบชื่อภายหลังคือ นายระวี อานาย อายุ 39 ปี บอกว่าคนเป็นคนขับเรือหางยางขนส่งสิ่งของ ของโรงแรมพีพีรีแล็ค ได้ออกมาจากบ้านอ่าวนางเพื่อนำสิ่งของไปส่งที่โรงแรมบนเกาะพีพีดอน เมื่อเรือแล่นมาถึงจุดเกิดเหตุเรือเกิดการขัดข้องอย่างกระทันหันทำให้เครื่องยนต์ดับและเรือหยุดวิ่งทันที ตนจึงตรวจดูที่เครื่องยนต์ไม่พบิส่งผิดปกติ จึงได้ยกแกนใบพัดเรือขึ้นมาดูพบว่าตรงบริเวณแกนปลายสุดของใบพัดเรือขาด ทำให้เรือไม่สามารถวิ่งต่อไปได้ จึงได้แจ้งให้ทางบริษัททราบ และขอความช่วยเหลือจากอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราหมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ จากนั้นจึงชักลากเข้าหาฝั่งมายังชายฝั่งที่เกาะไม้ไผ่ เพื่อรอให้ทางบริษัทเรือลำดังกล่าวนำเรือเรือมาลากจูงกลับไปยังเกาะพีพีดอนต่อไป

โดยนายนายแสงสุรีย์ ซองทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราหมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ กล่าวว่า วันนี้นับเป็นความโชคดีของเรือพีพีรีแล็ค 3 ที่ไม่ถูกคลื่นลมแรงพัดจมลงสู่ท้องทะเล เนื่องจากสภาพอากาศเป็นใจท้องทะเลไม่มีคลื่นลมแรงเหมือน 2 – 3 วันที่ผ่านมา เพราะจุดเกิดเหตุในช่วงดังกล่าวของแต่ละวัน เมื่อน้ำขึ้นและนำลงจะมีคลื่นลมแรงสูง 1 – 2 เมตร หากเรือจอดลอยลำไปตามกระแสคลื่นอาจจะถูกคลื่นซัดจนน้ำเข้าเรือ และอาจจะทำให้เรือจมลงได้ 



สนับสนุนข่าวโดย











Please Select Embedded Mode To Show The Comment System.*

ใหม่กว่า เก่ากว่า
ข่าวช่อง2 ออนไลน์ไทยแลนด์

Default Thumbnail

ข่าวช่อง2 ออนไลน์ไทยแลนด์