พุทธศาสนิกชนชาวพิษณุโลก ต่างพาครอบครัวไปกราบไหว้ พระพุทธรูปปางพระพุทธเจ้าเข้านิพพาน ประดิษฐานอยู่ในวิหารพระเจ้าเข้านิพพาน ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร หรือ วัดใหญ่พร้อมตั้งจิตอธิษฐานกระทำความดีถวายเป็นพุทธบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว เนื่องในวันอัฐมีบูชา
วันนี้ เป็นวันพระ แรม 8 ค่ำเดือน 6 ซึ่งตรงกับ วันอัฐมีบูชา ทำให้พุทธศาสนิกชนคนไทยในหลายพื้นที่เดินทางมากราบไหว้พระพุทธชินราช อ.เมือง จ.พิษณูโลก แล้วยังมากราบไหว้ขอพร พระพุทธรูปอีกปางหนึ่งที่น่าสนใจและถือว่าเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย คาดว่าสร้างในสมัยอยุธยา คือ พระพุทธรูปปางพระพุทธเจ้าเข้านิพพาน ที่ประดิษฐานอยู่ใน พระวิหารพระเจ้าเข้านิพพาน ทางด้านใต้ของพระวิหาร พระศรีศาสดา วันนี้มีพุทธศาสนิกชนทะยอย มากราบไหว้ขอพร พร้อมตั้งจิตอธิษฐานกระทำความดีถวายเป็นพุทธบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว เนื่องในวัน วันอัฐมีบูชา … วิหารพระเจ้าเข้านิพพาน ในวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.พิษณุโลก มีลักษณะเป็นหีบทอง ซึ่งทำจากศิลาลงรักปิดทอง ประดิษฐานพระบรมศพพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตั้งอยู่บนจิตกาธาน ที่ปลายหีบทางด้านใต้ มีพระพุทธบาทคู่ยื่นออกมา นับว่าเป็นพระพุทธรูปปางพิเศษ ที่มีความแตกต่างจากปางอื่น เป็นพุทธปาฏิหาริย์ยื่นพระบาทออกมาให้พระมหากัสสปะเถระ ได้ถวายบังคมเป็นครั้งสุดท้าย รอบพระจิตกาธาน มีรูปพระพุทธสาวกรวม 5 องค์ นั่งชันเข่าพนมมือ ปลงธรรมสังเวช ด้านท้ายวิหารยังประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้น ปางมารวิชัย 3 องค์ วิหารมีลักษณะเป็นทรงโรง สมัยอยุธยาขนาดเล็ก มี 4 ห้อง หลังคามีชั้นเดียว มีปีกนกมุงด้วยเกล็ดพระยานาค นับว่าเป็นศิลปะที่หาดูยาก เพราะมีแห่งเดียวในประเทศไทย พุทธศาสนิกชนนิยมเรียกว่า วิหารพระเจ้าเข้านิพพาน
สำหรับคติความเชื่อของพุทธศาสนิกชน ที่เดินทางมากราบไหว้ขอพรจากพระเจ้าเข้านิพพาน และหีบพระบรมศพนั้น ต่างเชื่อว่า เมื่อได้มากราบพระบาทของพระพุทธเจ้าแล้วอธิษฐานขอสิ่งที่ต้องการแล้วจะสัมฤทธิผลทุกประการ จึงทำให้มีพุทธศาสนิกชน และนักท่องเที่ยวแห่แหนเดินทางมากราบไหว้ขอพรจากพระเจ้าเข้านิพพาน และหีบพระบรมศพ อย่างไม่ขาดสาย ซึ่งเป็นวิหารที่ทางวัดเปิดให้กราบไหว้ได้ตลอดทั้งปี