อาจารย์หนุ่มลูกชาวนา จากคณะเกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยนเรศวร เปิดผลงานวิจัยข้าวที่ประสบความสำเร็จ ได้ข้าวเจ้าพันธุ์ใหม่ ชื่อว่า ข้าวพระองค์ขาว เป็นข้าวเบา สู้แล้ง สู้โรคพืช แตกกาบแตกกอดี ให้ผลผลิตสูงประมาณ 1 ตันต่อไร่ ขณะนี้อยู่ช่วงการขยายสายพันธุ์ให้เกษตรกรปลูก เป็นพันธุ์ข้าวปลูกได้เองแล้ว หวังช่วยชาวนาให้ลดต้นทุน ได้ผลผลิตสูง ได้ราคาดีกว่าปัจจุบันนี้
ที่ แปลงวิจัยการปรับปรุงพันธุ์ข้าว วิชชาลัยข้าวและชาวนา มหาวิทยาลัยนเรศวร อ.เมือง จ.พิษณุโลก ดร.ภาวัช วิจารัตน์ เป็นอาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์การเกษตร คณะเกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ของมหาวิทยาลัยนเรศวร ลูกชาวนาจาก ต.ปากทาง อ.เมือง จ.พิจิตร ที่เล็งเห็นปัญหาของชาวนาว่าต้องประสบปัญหาของการลงทุนต่อไร่สูง ผลผลิตได้น้อย ขายได้ราคาต่ำ ชาวนาเดือดร้อนกันถ้วนหน้า ด้วยเหตุนี้ทำให้ มีการคิดค้น ทดลอง ผสมสายพันธุ์ข้าวให้ดีกว่าและตอบโจทย์ชาวนา วันนี้จึงได้เปิดแถลงข่าวแก่สื่อมวลชนถึงการประสบความสำเร็จนี้ ที่สามารถผสมพันธุ์ข้าวเจ้าสายพันธุ์ใหม่ ให้ชื่อว่า ข้าวพันธุ์พระองค์ขาว เพราะข้าวมีสีขาวนวล ซึ่งเป็นข้าวเบา ไม่ไวต่อช่วงแสง เป็นการปรับปรุงพันธุ์ข้าวระหว่าง ข้าวพันธุ์หอมสุโขทัย 4 จากโครงการเกษตรอินทรีย์ สนามบินสุโขทัย อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย ใช้เป็นพันธุ์แม่ กับ ข้าวพันธุ์ปทุมธานี 1 ของกรมการข้าว ใช้เป็นพันธุ์พ่อ และยังมีการประสานงานอย่างใกล้ชิดกับ กรมวิชาการเกษตรอย่างใกล้ชิด
ข้าวเจ้าสายพันธุ์พระองค์ขาวนี้ เกิดจากการปรับปรุงพันธุ์แบบวิธีมาตรฐาน ดำเนินการปลูกและคัดเลือกสายพันธุ์ภายใต้สภาพแปลงทดลอง ของวิชชาลัยข้าวและชาวนา มหาวิทยาลัยนเรศวร และเมื่อได้ผลการผสมสายพันธุ์แล้ว จึงมีการปลูกทดสอบผลผลิต โดยเกษตรกรในพื้นที่ ตำบลรังนก อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร เมื่อปี 66 และ เมื่อปี พ.ศ.2559 ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณา เพาะเมล็ดพันธุ์ข้าวที่เกิดจากการผสมพันธุ์ได้นี้ ในงานวันข้าวและชาวนาแห่งชาติ กรมการข้าว ปี พ.ศ.2559 หลังจากนั้นก็ได้ดำเนินการเพาะปลูก … ซึ่งต่อมาปลูกทดสอบอีก ในปี 67 เพื่อปรับปรุงพันธุ์ข้าวพันธุ์พระองค์ขาวจนปัจจุบันปี 68 สายพันธฺนี้นิ่งแล้ว
สายพันธุ์ข้าวพระองค์ชาวนี้ มีคุณสมบัติด้านการเกษตรดีเด่นกว่าพันธุ์พ่อแม่ เช่น การแตกกาบแตกกอดีกว่า 1 เมล็ดจะได้ ประมาณ 70 กอขึ้นไป มีความสูงเฉลี่ย 90 เซนติเมตร ทนต่อแรงลม ใบธงตั้ง ใบสีเขียวอ่อน เมื่อสุกแก่เมล็ดข้าวเปลือกมีสีน้ำตาลอ่อน เมล็ดข้าวสารและเมล็ดข้าวเปลือกยาว แกร่ง เต็มโครง มีอายุเก็บเกี่ยวสั้นเฉลี่ยที่ 90-100 วัน และที่สำตัญ มีผลผลิตค่อนข้างสูงเฉลี่ยที่ 900-1,000 กิโลกรัม/ไร่ หรือ ประมาณ 1 เกวียน ต่อ ไร่ เมื่อนำมาหุง จะขึ้นหม้อ และมีรสชาติที่อร่อยกว่า ขณะนี้ ได้นำไปปลูกเพื่อขยายผลผลิตในที่นาของ นายธวิช เพชรพงศ์ ชาวบ้าน ม.1 บ้านจระเข้ผอม ต.รังนก อ.สามง่าม จ.พิจิตร และได้ผลผลิตเป็นที่น่าพอใจพร้อมที่จะทำมาเป็นพันธุ์ข้าวปลูก ชาวนาท่านใดสนใจติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ดร.ภาวัช วิจารัตน์ ภาควิชาวิทยาศาสตร์การเกษตร คณะเกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยนเรศวร หมายเลขโทรศัท์ 09-2551-6262
