นราธิวาส - 'ไทยพุทธท้อหนัก' หลังแนวร่วม BRN.ฆ่ารายวันเหมือนกดดันให้ย้ายถิ่นฐาน ด้าน 'ทวี สอดส่อง' เข้าค่ายทหาร ถกร่วมกองกำลัง ไล่เรียงเหตุสะเทือนขวัญ ขณะที่ 'จังหวัดประกาศยกระดับมาตรการ รปภ.เข้มข้นทั้ง 13 อำเภอ'
"รัฐบาลมีความห่วงใยประชาชนที่เสียขวัญเป็นวงกว้าง แต่ยังคงเชื่อมั่นในการดูแลความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ ส่วนข้อเสนอแนะต่างๆนั้น รัฐบาลจะนำไปแก้ไขให้ตรงจุด เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายลง"
วันนี้ ( 5 พ.ค.68) ที่ห้องประชุม หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ต.กะลุวอ อ.เมือง จ.นราธิวาส พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เดินทางลงพื้นที่ เพื่อติดตามสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ชาวไทยพุทธ เสียชีวิตและบาดเจ็บรายวัน โดยมี พล.ต.กรกกฎ ภู่โชติ รอง ผอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า, พล.ต.ณรงค์ ตันติสิทธิพร ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 / ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส รวมทั้งฝ่ายความมั่นคง ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง เข้าร่วมฯ
ที่ประชุมได้ชี้แจงสถานการณ์และความคืบหน้าคดีสำคัญจากผู้แทนกองกำลังตำรวจ จชต., มาตรการป้องกันบุคคลและชุมชนเป้าหมาย ส่วนหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส รายงานแนวทางการดูแลกลุ่มเป้าหมายอ่อนแอและเปราะบาง ซึ่งห้วงต้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ไทยพุทธต้องกลายเป็นเหยื่อรายวันของแนวร่วมขบวนการ BRN.รวม 5 ราย บาดเจ็บ 7 คน ส่งผลต่อจิตใจของกลุ่มไทยพุทธที่รู้สึกท้อแท้และหวาดกลัวเป็นวงกว้าง
"รู้สึกเครียดเพราะทุกวันต้องขี่มอไซไปกรีดยางช่วงเช้า ทุกครั้งที่ต้องออกจากบ้าน ต้องคอยระวังแบบนี้ นานแค่ไหนไม่รู้ พวกโจรมันเหี้ยม แต่ไม่อยากย้ายไปที่อื่น เพราะที่นี่คือบ้านเกิดเรา ถ้าย้ายออกไปหมด ก็เข้าทางโจร มันอยากได้สามจังหวัดมานานแล้ว" นางวรรณ ที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงระบายความอัดอั้น
ทั้งนี้ จ.นราธิวาส ได้ยกระดับมาตรการ รปภ.เข้มข้นทั้ง 13 อำเภอ ให้ฝ่ายปกครองและหน่วยกำลังดูแลความปลอดภัยของประชาชน ป้องกันเหตุซ้ำ พร้อมกำชับให้ใช้มาตรการเชิงรุก จัดชุดลาดตระเวน เพิ่มจุดตรวจจุดสกัด และดูแลพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะสถานที่จัดกิจกรรม หรือมีประชาชนรวมตัวเป็นจำนวนมาก ขณะที่สถิติเหตุการณ์ในพื้นที่ ห้วงปี 65 จำนวน 44 เหตุการณ์, ปี 66 จำนวน 38 เหตุการณ์, ปี 67 จำนวน 39 เหตุการณ์ และปี 68 จำนวน 38 เหตุการณ์ พุ่งเป้าต่อกลุ่มไทยพุทธ, เจ้าหน้าที่รัฐและฐานปฏิบัติการ
"รัฐบาลมีความห่วงใยต่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชายแดนใต้ และมุ่งมั่นในการคลี่คลายปัญหาความไม่สงบอย่างเป็นระบบ เน้นย้ำการฟื้นฟูขวัญและกำลังใจของประชาชนเป็นสำคัญ และยังคงเชื่อมั่นในการดูแลความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ พร้อมให้กำลังใจและรับฟังความเห็นของทุกคน เพื่อนำไปแก้ไขปัญหาให้ตรงจุดและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด" รมว.ยุติธรรมกล่าว
ข่าว-สัญฐิติ ขอจิตต์เมตต์
