กรมท่าอากาศยานเดินหน้าโครงการพัฒนาอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี พร้อมจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นรอบสุดท้ายจากประชาชนและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ชี้อนาคตนักท่องเที่ยวจะเดินทางเข้ามาเพิ่มมากขึ้นจากเดิมชั้วโมงละ 1400 8น ขยับเป็น 2 พัน อีกทั้งเพื่อรองรับเครื่องบินเช่าเหมาลำที่บินจากต่างประเทศเข้ามา
วันนี้(6 มิ.ย.68) นายวิทศักดิ์ จำเริญนุสิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานเปิดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนครั้งที่ 2 (ปัจฉิมนิเทศโครงการ) งานจ้างออกแบบรายละเอียดอาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่ และเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการ ในรายงานประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี โดยการประชุมรับฟังความคิดเห็นในครั้งนี้จัดขึ้น ณ ห้องประชุมอุบลรัตนราชกัญญา อาคารอุบลรัตนราชกัญญา สหกรณ์สุราษฎร์ธานี จำกัด อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
นางปรีดา ช่วยคง ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี ผู้แทนกรมท่าอากาศยาน กล่าวว่า โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารจาก 1,400 คนต่อชั่วโมง เป็นประมาณ 2,000 คนต่อชั่วโมง ภายในปี 2593 พร้อมยกระดับท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานีให้เป็นศูนย์กลางคมนาคมทางอากาศในระดับภูมิภาค เนื่องจากอาคารผู้โดยสารเดิมมีสภาพทรุดโทรมและไม่เพียงพอต่อความต้องการ กรมท่าอากาศยานได้ว่าจ้างบริษัทเอกชน ดำเนินงานออกแบบอาคารใหม่ รวมถึงจัดทำรายงานการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม และเอกสารประกอบการจัดซื้อจัดจ้าง โดยพื้นที่โครงการตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 3 ตำบลหัวเตย อำเภอพุนพิน มีขอบเขตครอบคลุมการออกแบบอาคารผู้โดยสารสำหรับเที่ยวบินภายในประเทศและระหว่างประเทศ งานสถาปัตยกรรมภายในภูมิสถาปัตยกรรม งานวิศวกรรม การปรับปรุงอาคารเดิม และการก่อสร้างอาคารจอดรถ จำนวน 2 หลัง โดยมีระยะเวลาศึกษารวม 300 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 13 กันยายน 2567 ถึงวันที่ 9 กรกฎาคม 2568
อย่างไรก็ตามท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี ถือว่าเป็นท่าอากาศยานที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก จะมีสายการบินพาณิชย์มาสุราษฎร์ธานีวันละไม่น้อยกว่า 30 เที่ยวบิน และขณะนี้ในราวเดือนกรกฎาคมสายการบินที่บินอยู่แล้วจะเพิ่มเที่ยวบินระหว่างท่าอากาศยานอีกอาทิ สุวรรณภูมิ-สุราษฎร์ธานี เพิ่มดอนเมือง-สุราษฎร์ธานี และสายการบินสุราษฎร์ธานี –เชียงใหญ่ ก็กลับมาบินเหมือนเดิม จากสัปดาห์ละ 1 เที่ยวจะกลายเป็นสัปดาห์ละ 3 เที่ยว และในอนาคตเครื่องบินเช่าเหมาลำก็จะกลับมาบินเหมือนเดิม