ยักษ์ชนยักษ์ โชเฟอร์บรรทุกพ่วงร่างแหลกคาพ่วงมาลัย
หนุ่มวัยเบญจเพสถึงคราวเคราะห์ ขับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ พุ่งชนท้ายรถบรรทุก 10 ล้อ ช่วงยูเทรินกลับรถ ทำให้เกิดอุบัติเหตุจำนวน 3 คัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน ส่วนตัวเองเคราะห์ร้าย ถูกพวงมาลัยและเศษซากรถ อัดร่างแหลกเหลวดับคาที่ เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ต้องใช้เครื่องตัดถ่างถึงเอาร่างออกมาได้อย่างทุลักทุเล ส่วนสาเหตุคาดว่าอาจจะหลับใน
นับว่าเป็นถนนที่มีอันตรายอีกสายหนึ่งในช่วงนี้ สำหรับถนนสายมาลัยแมน กำแพงแสน-สุพรรณบุรี ที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งแทบจะรายวันเลยทีเดียว และในวันนี้ก็ได้เกิดอุบัติเหตุ ทำสถิติมีผุ้เสียชีวิตอีกเช่นเคย หลังจากเมื่อวันที่ 22 มี.ค.68 เวลาประมาณ 01.00 น. ที่ถนนสายมาลัยแมน กำแพงแสน-สุพรรณบุรี มีอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งไฟฟ้าพุ่งอัดท้ายรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ MG จนมีผู้เสียชีวิต 2 ศพ และบาดเจ็บสาหัส 1 รายมาแล้ว และในวันนี้ก็ได้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันอีกครั้ง เมื่อเช้าวันนี้ 24 มี.ค.68 เมื่อเวลาประมาณ 08.00 น. ได้รับแจ้งว่า ที่ถนนสายมาลัยแมน กำแพงแสน-สุพรรณบุรี ขาเข้าสุพรรณบุรี บริเวณช่วงยูเทรินกลับรถ ม.6 ต.ห้วยม่วง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม มีรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ ทะเบียน 90-3398 นครปฐม ผู้ขับขี่คือ นายสหรัฐ อุ่นตาดี อ.25 ปี ต.ห้วยขวาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ได้ขับพุ่งชนท้ายรถบรรทุก 10 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน 84-2288 นครปฐม ผู้ขับขี่คือ นายพเยาว์ ลิขิตวัฒนชัย อ.50 ปี บ้านเลขที่ 23 ม.3 ต.กระตีบ อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ขณะจอดชิดขวาเพื่อรอยูเทรินกลับรถ ก็มีรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ พุ่งชนท้ายรถอย่างแรง ทำให้รถกระเด็นพลิกตะแคงขวางอยู่กลางถนน จนได้รับบาดเจ็บ ร่างกายท่อนล่างชาทั้งหมด ถูกนำส่งยัง รพ.กำแพงแสน ส่วนรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ วิ่งไปจอดแน่นิ่งชิดขอบริมเกาะกลางวถนน ในสภาพด้านหน้ารถพังยุบแหลกเป็นเศษเหล็ก และมีร่างของโชเฟอร์ที่เสียชีวิตติดคาซากรถอยู่ ขณะเกิดเหตุยังมีรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีส้ม ทะเบียน 4กบ 7545 กทม. ผู้ขับขี่คือ นายกร นามสมมุติ อ.58 ปี ต.กระตีบ อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม อาชีพรับเหมาก่อสร้าง ขณะขับมาถึงบริเวณช่วงยูเทริน ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นรถบรรทุก 10 ล้อ ถูกชนกระเด็นมาขวางถนน ตนจึงต้องหักพวงมาลัยหลบ จนรถพุ่งตกถนนลงไปในทุ่งนา รถได้รับความเสียหายด้วย แต่ไม่ได้รับบาดเจ็บตามร่างกาย
กลังเกิดเหตุ พ.ต.ต.ศักดา คำมงคล ร้อยเวร สภ.กระตีบ และ เจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม ได้รุดมายังที่เกิดเหตุ และนำเครื่องตัดถ่างเร่งตัดซากตัวรถกว่า 20 นาที จึงสามารถนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาได้ ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของญาติๆ ต่อมานายนิธิโรจน์ นามสมมุตินายก อบต.แห่งหนึ่ง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐมมายังที่เกิดเหตุ พร้อมได้กล่าวว่าถนนสายนี้มักมีอุบัติเหตุบ่อยครั้ง และมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย ขณะนี้ตนเองและคณะผู้บริหาร มีนโยบายในเรื่องการจัดหางบประมาณ เพื่อติดกล้องวงจรปิดถนนสายนี้ และทุกๆจุด ที่เป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ รวมทั้งยังเป็นการป้องกันเหตุร้ายต่างๆ ให้ครบทั้งตำบลต่อไป
ผู้สื่อข่าว นายพิสิษฐ์ ปานวณิชยกิจ (24 มี.ค.68)
ภาพ น.ส.ศิวาพร ศรีศิวานุวัฒน์ (จ.นครปฐม)
สนับสนุนข่าวโดย
