ฉะเชิงเทรา - หน.บพด.ประสาน ตร.บุกช่วยเหลือเด็กหญิงจากความรุนแรง

ฉะเชิงเทรา - หน.บพด.ประสาน ตร.บุกช่วยเหลือเด็กหญิงจากความรุนแรง

หัวหน้าบ้านพักเด็กจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายปกครอง อบต.โพรงอากาศ ลงพื้นที่บุกเข้าบ้านเหยื่อหญิงสาววัย 15 ปี ที่ถูกพ่อแท้ๆ กระทำความรุนแรง จนญาติต้องร้องขอความช่วยเหลือผ่านไปยังมูลนิธิเป็นหนึ่ง เพื่อเข้ามาให้การช่วยเหลือ โดยอ้างว่าพ่อหลอนเพราะติดยาเสพติด แต่จากการตรวจสารเสพติดไม่พบสาร สอบถามผู้เป็นพ่อเผย ลูกหนีเที่ยวกับเพื่อนชาย จึงเกิดอารมณ์ปรี๊ดก่อให้เกิดความรุนแรง เพราะห่วงลูกสาว

เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 27 ธันวาคม 2567 ดร.ศิรพงศ์ โภคินวงศ์หิรัญ  หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้รับการประสานจากต้นอ้อ มูลนิธิเป็นหนึ่ง ว่าได้รับการประสานจากญาติของเด็กหญิง บี (นามสมมุติ)  อายุ 15 ปี พักอาศัยอยู่ในพื้นที่ตำบลโพรงอากาศ  อำเภอบางน้ำเปรี้ยว  จังหวัดฉะเชิงเทรา ว่าถูกพ่อแท้ๆ ทำร้ายร่างกายมาตั้งแต่เด็กหญิงบี เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จนตอนนี้เรียนมัธยมศึกษาปีที่ 4 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอบางน้ำเปรี้ยว โดยทางญาติระบุว่าผู้เป็นพ่อนั้นติดยาเสพติด จนเกิดอาการหลอนยา จนล่าสุดเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2567 ได้ถูกพ่อแท้ๆ ทำร้ายร่างกายอย่างหนัก ทั้งตบทั้งกระทืบจนใบหน้าปูดบวม ถึงขั้นต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลบางน้ำเปรี้ยว โดยผู้เป็นพ่อให้ทางเด็กหญิงบีโกหกว่าหกล้มเอง แต่หมอไม่เชื่อจนเด็กหญิงบียอมบอกความจริงที่เกิดขึ้นกับหมอ

ด้าน ดร.ศิรพงศ์ โภคินวงศ์หิรัญ จึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรบางน้ำเปรี้ยว ฝ่ายปกครองอำเภอบางน้ำเปรี้ยว และ เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลโพรงอากาศ บุกเข้าบ้านพ่อของเด็กหญิงบี  ที่ตกเป็นเหยื่อความรุนแรงในครอบครับ ปรากฏว่าได้พบนายนุ (นามสมมุติ ) อายุ 43 ปี  ซึ่งเป็นพ่อแท้ๆ ของเด็กหญิงบี โดยนายนุได้ยอมรับว่าตนเองได้กระทำรุนแรกกับลูกสาวจริง เพราะโกธรที่ไปเห็นคลิปในโทรศัพท์มือถือของลูกสาว ที่แอบหนีเที่ยวกับเพื่อนชาย (ในลักษณะเปิดเผยไม่ได้) พอตนเองเห็นจึงปรี๊ดขึ้นมาทันที และได้ใช้อารมณ์โกธรทำร้ายร่างกายลูกสาวจริง เพราะห่วงว่าลูกสาวจะเกิดพลาดท่า (ท้อง) ขึ้นมา จะอับอาย แล้วเรียนไม่จบ โดยนายนุยอมรับว่าเมื่อก่อนตนเองไม่เคยดูแลลูกเลย เพราะแม่จะเป็นคนดูแล ส่วนตัวเองก็ทำงานหาเงินอย่างเดียว จนภายหลังแม่เสียชีวิต ตนเองก็ต้องเป็นคนดูแลลูกสาวคนนี้เพียงคนเดียว ทั้งซักเสื้อผ้าให้ ทำอาหารการกินไว้ให้ตลอด   โดยยอมรับว่าตนเองทั้งรักและห่วง  แต่อาจมีดุด่าว่าร้ายไปบ้าง เพราะความโกธร เนื่องจากลูกสาวไม่ยอมทำอะไรเองเลย  จนทำให้ตนเองต้องออกจากงานเพื่อมาอยู่ดูแลลูกสาวคนนี้  จนวันนั้นยอมรับว่าลูกสาวได้หนีเที่ยวกับเพื่อนชาย และมีคลิปปรากฏในมือถือของลูกสาว ตนเองจึงโกธรมาก   ด้านคุณยาย ซึ่งเป็นแม่ของนายนุ ก็เปิดเผยอีกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นตนเองก็พึ่งจะรู้เรื่อง แต่ยอมรับว่าหลานสาว (บี) โตจนป่านนี้แล้วยังซักเสื้อผ้าไม่เป็นเลย มีแต่พ่อคอยทำให้ทุกอย่าง ซึ่งชาวบ้านแถวนี้จะรู้กันทั่ว  และก็มักได้ยินเสียงพ่อลูกคู่นี้ทะเลอะกันเป็นประจำ

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครอง ได้ขออนุญาตนายนุเพื่อตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย ซึ่งนายนุก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และผลการตรวจก็ไม่พบสารเสพติด ตามที่มีการร้องเรียนมาก่อนหน้านี้

ด้าน ดร.ศิรพงศ์ โภคินวงศ์หิรัญ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้เข้าเจรจากับผู้เป็นพ่อ โดยขอเอาน้องบีไปอยู่ในความดูแลของบ้านพักเด็กเป็นการชั่วคราว ส่วนตัวนายนุทางเจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือในการเข้าตรวจสุขภาพจิตที่โรงพยาบาลพุทธโสธร ว่ามีสภาพจิตใจที่ยังปกติ หรือมีภาวะเครียดในเรื่องใดหรือไม่  ถ้าพบว่าเป็นปกติดี ก็จะพิจารณาในการส่งคืนน้องบีให้กลับมาอยู่ด้วย แต่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขของบ้านพักเด็กและครอบครัว แต่ถ้าหากพบว่ามีอาการป่วย ก็จะได้รับการรักษาต่อไป ในขณะที่เด็กหญิงบีได้ร้องขอว่าอยากจะไปอยู่กับญาติที่สระแก้ว ซึ่งทางบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดฉะเชิงเทรา  จะส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไปพูดคุยและตรวจสภาพความพร้อมก่อน เพื่อประเมินความเหมาะสม และความเป็นไปได้ ในการที่จะให้ญาติเป็นผู้ดูแลน้องบีแทนผู้เป็นพ่อต่อไป ส่วนช่วงเย็นวันนี้ทางเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวได้เดินทางพาน้องบีไปยังสถานีตำรวจภูธรบางน้ำเปรี้ยว เพื่อลงบันทึกประจำวัน ในการดำเนินการตามกฎหมายเพื่อรับตัวน้องบีไปอยู่ในความดูแลของบ้านพักเด็กและครอบครัวเป็นการชั่วคราว 


Please Select Embedded Mode To Show The Comment System.*

ใหม่กว่า เก่ากว่า
ข่าวช่อง2 ออนไลน์ไทยแลนด์

Default Thumbnail

ข่าวช่อง2 ออนไลน์ไทยแลนด์