วางเพลิงบ้านปล่อยเงินกู้วอดหมดหลังเสียหายนับล้าน
เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านครึ่งตึกครึ่งไม้วอดทั้งหลังระดมรถดับเพลิงนับสิบคันเกือบลามไปติดข้างบ้าน ทางเจ้าของบ้านมีอาชีพรับจ้างทั่วไปลูกชายปล่อยเงินกู้คาดว่าถูกวางเพลิงจากลูกค้า
โดยเมื่อเช้าวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์วิทยุ 191 ลพบุรีได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านครึ่งตึกครึ่งไม้เลขที่ 33 / 2 หมู่ที่ 8 ต.งิ้วราย อ.เมืองลพบุรี จึงได้แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรบ้านกุ่มไปตรวจสอบ รวมทั้งได้ประสานขอรถน้ำและรถดับเพลิงจากพื้นที่ใกล้เคียงกว่า 10 ตันเพื่อไปควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัด นอกจากนี้ยังได้ประสานเจ้าหน้าที่ไฟฟ้ามาตัดกระแสไฟฟ้า จากนั้น ร้อยตำรวจเอก ยุทธนกานต์ วังสาร รองสารวัตรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรบ้านกุ่ม ได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้นแล้วรีบเดินทางไปยังจุดที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย นายรัฐพล ธุระพันธ์ นายอำเภอเมืองลพบุรี มาอำนวยการดับเพลิง พันตำรวจโทสำราญ ดำคำ นายก อบต.งิ้วราย นายเสณ่ห์ ปวร กล่อมกูล นายก อบต.ดอนโพธิ์ นางสาวยุภา ผลเกตุ นายก อบต.โพธิ์เก้าต้น กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจและเจ้าหน้าที่มูลนิธิ
ซึ่งพบว่าทางเข้าไปยังจุดที่เกิดเหตุเป็นทางแคบและเพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรงประกอบกับได้มีลมกรรโชคด้วย ทางเจ้าหน้าที่ได้ระดมฉีดน้ำดับเพลิง รวมทั้งได้ฉีดน้ำเลี้ยงบ้านข้างเคียงที่อยู่ติดกันไม่ให้ความร้อนและสะเก็ดไฟปลิวไปติด โดยใช้เวลาในการสกัดและสามารถคุมเพลิงไว้ในวงจำกัดประมาณ 30 นาทีเพลิงเริ่มสงบลง แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ฉีดน้ำดับเพลิงที่ยังลุกไหม้ภายในบ้าน จากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่าทรัพย์สินภายในบ้านได้รับความเสียหายหมดและมีรถจักรยานยนต์ที่จอดในบ้านถูกไฟไหม้ไปจำนวน 3 คัน ขณะเกิดเหตุทราบว่ามีผู้อยู่ภายในบ้านเพียงคนเดียว
จากการสอบถาม นางปรุง พูลอ่อน อายุ 62 ปี เจ้าของบ้าน ได้เปิดเผยว่าในช่วงที่เกิดเหตุนั้น ตนกับสามีได้ขับรถยนต์กระบะออกจากบ้านจะไปโรงพยาบาลได้ประมาณ 10 นาที โดยมีน้องสาวอยู่ที่ภายในบ้านเพียงคนเดียว ลูกชายที่ได้ออกเงินกู้ก็ออกไปข้างนอก จากนั้นก็ได้รับโทรศัพท์ว่าที่บ้านไฟไหม้ก็เลี้ยวรถกลับมาพบว่าเพลิงกำลังลุกไหม้ ซึ่งไม่สามารถที่จะเข้าไปเก็บของมีค่าที่อยู่ภายในบ้านออกมาได้แม้แต่ชิ้นเดียว แต่ทราบจากเพื่อนบ้านว่ามีคนขับรถจักรยานยนต์มาแล้วเอาน้ำมันไปสาดใส่รถจักรยานยนต์ที่จอดในบ้านแล้วจุดไฟเผา จึงทำให้เกิดเพลิงไหม้ได้รับความเสียหายดังกล่าว ซึ่งจะได้ขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของข้างบ้าน โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เก็บหลักฐาน สอบปากคำ และรอให้เจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งค่าเสียหายในเบื้องต้นประมาณ 1 ล้านบาท
ภาพข่าวโดย...กฤษณพงศ์ อยู่รอด ลพบุรี(086-5745485)
