มหกรรม ปชช. แห่ล่าปลานิลน็อกน้ำบ่อธรรมชาติเนืองแน่น
ที่จังหวัดนครปฐม ประชาชนจากทั่วสารทิศหลายร้อยคน แห่รุมทึ้งล่าปลานิลและปลาหมอคางดำ ในบ่อทรายธรรมชาติเนื้อที่กว่า 100 ไร่ หลังเกิดการน็อกน้ำจากพิษน้ำเน่าเสียจากโรงงาน ที่แอบปล่อยลงคู คลองธรรมชาติ ทำให้ปลานิลน้อยใหญ่ต้องลอยหัวขึ้นผิวน้ำเพื่อเติมออกซิเจน จนชาวบ้านรู้ข่าวต่างระดมอุปกรณ์นานาชนิด ทั้ง เรือ หว่านแห ปืนฉมวก และยกยอ ออกล่ากันทั่วบริเวณบ่อ ซึ่งก็ไม่ผิดหวังกอบโกยกันรายละ 300 ถึง 400 กิโลกรัมกันเลยทีเดียว
เหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นที่บริเวณบ่อทรายร้าง เนื้อที่กว่า 100 ไร่ ม.11 ต.ห้วยขวาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม จากรายงานข้อมูลจากชาวบ้าน นางพเยาว์ เขียวอร่าม อ.67 ปี ได้เปิดเผยถึงเหตุการณ์ที่ปลานิลน้อยใหญ่ทั้งบ่อ เกิดน็อกน้ำต้องอ้าปากลอยหัวขึ้นผิวน้ำครั้งนี้ว่า เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 9 มี.ค.68 ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ก็ได้มีชาวบ้านจากทั่วสารทิศ และจากต่างจังหวัดที่ทราบข่าวต่อๆกันมา ก็ได้นำอุปกรณ์ในการช่วยล่าปลา ประกอบด้วย เรือพาย แห ปืนฉมวก และ ยอ เดินทางมายังบ่อดังกล่าวทันที ซึ่งก็ต้องบอกว่าเหมือนมหกรรมงานวัดกันเลยทีเดียว จนทำให้บริเวณขอบบ่อทุกจุด แออัดไปด้วยรถยนต์นานาชนิด รถจักรยานยนต์ และรถพ่วงข้าง หลายร้อยคันมาจอดเรียงรายเป็นแนวยาวตลอดริมบ่อ อีกทั้งยังมีบรรดาพ่อค้าและแม่ค้าต่างก็ฉวยโอกาสนี้ นำรถขายอาหารและเครื่องดื่ม มาแร่ขายกันนับสิบๆราย ยิ่งทำให้พื้นที่ดังกว่าเกิดการแออัดเพิ่มขึ้นไปอีก ซึ่งจากการบอกเล่าจึงทราบว่าวันนั้นมีนักล่าปลาที่แห่กันมาหลายร้อยคน ต่างก็ได้ปลากันคนละ 300-400 กก. ที่ได้น้อยก็ไม่ต่ำกว่า 50-100 กก. โดยเฉพาะชาวบ้านเจ้าถิ่นรายหนึ่ง ที่ลงทุนทำยอขนาดใหญ่ ลงไปว่างขึงบริเวณกลางบ่อ จำนวน 3 ปาก สามารถยกยอและจับปลาได้ครั้งละเกือบ 100 กก. ทีเดียว เรียกได้ว่างานนี้ทุกคนสามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำกันเลย ส่วนวันนี้ก็ยังคงมีนักล่าปลาจำนวนมากแห่กันมาอีก 1 วันเช่นเคย เนื่องจากยังคงมีปลาน็อกน้ำลอยหัวทั่วบริเวณบ่อเหมือนเดิม เพียงแต่จะน้อยกว่าวันที่ผ่านมาเล็กน้อย แต่ก็ยังคงได้ปลากันกันทุกคน
สำหรับปลานิลก็จะมีขนาดตั้งแต่ตัวละ 2-5 ขีด และมีปลาหมอคางดำปะปนมาบ้าง แต่ไม่มากนัก อาจจะเป็นเพราะปลาหมอคางดำ มีความอึดทนกว่าปลานิลนั่นเอง ส่วนเจ้าของยกยอก็จะได้ปลาจำนวนมากนับ 1,000 กก. ก็ได้นำปลาไปขายทั่วไปในราคาคละปนกันไป กก.ละ 15 บาท สำหรับปัญหาของการที่ปลาเกิดน็อกน้ำครั้งนี้ ชาวบ้านต่างคาดการณ์กันว่า น่าจะเกิดจากการที่ รง. ต้นทางของคู คลองส่งน้ำ มีการแอบปล่อยน้ำเสียลงมา จากนั้นน้ำเสียเหล่านี้ก็ไหลผ่านเข้าสู่บ่อทรายแห่งนี้ จึงเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น และครั้งนี้นับว่าเป็นครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเกิดมา จึงอยากฝากไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบ และ นายก อบต.ห้วยขวาง ให้ช่วยดำเนินการแก้ไขปัญหาให้ด้วย ไม่เช่นนั้นปลาก็จะตายหมดทั้งบ่อ จนเกิดการเน่าเหม็นกระจาย สร้างความเดือดร้อนแก่ชาวบ้านใกล้เคียงอีกด้วย
ผู้สื่อข่าว นายพิสิษฐ์ ปานวณิชยกิจ (10 มี.ค.68)
ภาพ น.ส.ศิวาพร ศรีศิวานุวัฒน์ (จ.นครปฐม)
สนับสนุนข่าวโดย