อึ้งยึดอาชีพขึ้นต้นตาลสร้างรายได้ตั้งแต่ อายุ 10 ขวบ จน 69 ปี

byข่าวจริงข่าวเด่นช่อง2 -มิถุนายน 18, 2568

0

อดีตทหารพรานยึดอาชีพปีนต้นตาล ตั้งแต่อายุ 10 ขวบ ปัจจุบันอายุ 69 ปี ยังแข็งแรงไม่แพ้พลังคนรุ่นลูกรุ่นหลาน แถมยังไม่ต้องพึ่งพาเครื่องมือตาพระองค์ปีนขึ้นอีกด้วย แค่ใช้พลังที่แข็งแกร่งปีนโอบด้วยความสูง 30 เมตรก็ไม่หวั่นไหว นำมาเฉาะด้วยความชำนาญ นำมาแปรรูปวางขายตามตลาดนัด สร้างรายได้ให้กับครอบครัวอย่างมีความสุขทุกวันนี้

คนแกร่งและสู้ชีวิตรายนี้ก็คือ นายบรรจบ อรุณรัศมี อ.69 ปี บ้านเลขที่ 108/2 ม.3 ต.วัดละมุด อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม อดีตทหารพรานที่เคยผ่านสถานการณ์สู้รบมาแล้วอย่างโชคโชน เขาได้เปิดเผยว่า ตาลนครปฐมมีรสชาติ หวาน อร่อยกว่า จ.เพชรบุรี ชัวร์ พร้อมเปิดเผยว่าอดีตที่ผ่านมาเมื่อ อ. 10 ขวบ ก็เริ่มปีนขึ้นไปเก็บลูกตาลมากินแล้ว และก็ทำมาโดยตลอด จนกระทั่งได้เป็นทหารเกณฑ์ ปี 2520 และเป็นทหารพรานเมื่อปี 2523 ณ ค่ายปักธงชัย และเคยมีประสบการณ์สู้รบกับ ผคค. ในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ มาแล้วเกือบ 1 เดือน ฯลฯ จากนั้นมาเมื่อมีครอบครัว ตนเองก็ยังประกอบอาชีพรับจ้างขึ้นต้นตาลมาโดยตลอด จนกระทั่งปัจจุบันนี้ ตน อ.69 ปีแล้ว ยังมีร่างกายแข็งแรง และยังยึดอาชีพขึ้นต้นตาลอย่างจริงจังเต็มตัว ด้วยการออกรับซื้อหรือเหมาต้นตาลจากพื้นที่ใกล้เคียง (จ.นครปฐม) และจากต่างจังหวัด ในราคาต้นละ 200-300 บาท ด้วยการปีนขึ้นด้วยเท้าเปล่า โดยไม่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์ตาพระองค์เลย จะมีแค่อุปกรณ์ปอก (ผ้าขาวม้า) สำหรับคล้องขาเวลาปีนขึ้นต้น มีด และเชือกยาว 1 เส้น เท่านั้น จากนั้นก็แค่ใช้กำลังแขนและขาที่แข็งแรง ปีนขึ้นไปจนถึงยอดของต้น ตัดช่อลูกตาลแล้วโรยเชือกลงมา จากประสบการณ์ที่ผ่านมาเคยขึ้นสูงสุดประมาณ 30 เมตร เนื่องจากรับจ้างขึ้นต้นตาลทั่วไปด้วย โดยจะได้ค่าเหนื่อยต้นละ 150 บาท เมื่อพบเจอผลผลิตบนต้นแล้วก็จะเลือกดูเฉพาะผลที่ใช้ได้เท่านั้น ส่วนผลที่แก่เกินแล้วก็จะไม่ตัดลงมา ปล่อยให้แก่สุกและหล่นลงมา เพื่อเอาไว้ทำขนมตาลขายได้

ตาลจะมีอยู่ 2 สายพันธุ์ คือ ตาลไข่ และ ตาลหม้อ ตาลไข่ลูกจะเล็กกว่าตาลหม้อ และมีรสชาติหวานและอร่อยกว่าตาลหม้อ ที่สำคัญตาล จ.นครปฐม จะมีความอร่อยกว่าตาล จ.เพชรบุรีอีกด้วย เนื่องจากดิน จ.นครปฐม เป็นดินเหนียว ส่วนที่ จ.เพชรบุรี จะเป็นดินทราย ส่วนผลตาลที่ได้มาทั้งหมดก็จะนำมาทำการเฉาะด้วยความชำนาญที่บ้าน โดยมีสมาชิกครอบครัวร่วมวงทำกันคนละแผนก ทั้งการบรรจุใส่ถุง ใส่กล่อง อีกทั้งยังทำแปรรูปเป็นตาลลอยแก้วด้วย จากนั้นก็จะนำผลผลิต ทั้งตาลสด และตาลลอยแก้ว นำไปวางขายตามตลาดนัดต่างๆ เพื่อสร้างรายได้ให้กับครอบครัว ซึ่งทุกวันนี้ครอบครัวก็อยู่อย่างมีความสุข ไม่เดือนร้อนและไม่เป็นหนี้สินอะไรด้วย

ภาพ/ข่าว

ผู้สื่อข่าว นายพิสิษฐ์ ปานวณิชยกิจ (19 มิ.ย.68)

ภาพ น.ส.ศิวาพร ศรีศิวานุวัฒน์ (จ.นครปฐม)

สนับสนุนข่าวโดย